เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
การบินไทย ปิดศูนย์ซ่อมอู่ตะเภามีผล 31 มีนาคมนี้ เหตุจากบอร์ดอีอีซี ต้องใช้พื้นที่สร้างรันเวย์ 2 ตามแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก โดยจะมีการย้ายอุปกรณ์รวมถึงพนักงานกว่า 300 คนเข้ามาทำงานที่ศูนย์ซ่อมใหญ่ดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ทั้งรื้อระบบจ่ายโอทีใหม่ ส่วนแผนลงทุน MRO อู่ตะเภา ยังขอศึกษาเพิ่มเติม
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร รักษาการแทนกรรมการผู้อำนวย การใหญ่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าการบินไทยจะดำเนินการปิดศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา
เนื่องจากพื้นที่ของโรงซ่อมบำรุงอากาศยาน (แฮงการ์) ในปัจจุบัน เป็นพื้นที่ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เป็นที่พื้นที่ก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 2 (รันเวย์) ตามแผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก
ส่วนพนักงานที่ไม่มีความประสงค์ที่ย้ายออกมา ทางบริษัทก็อยู่ระหว่างเปิดโครงการร่วมใจเสียสละเพื่อองค์กร (Mutual Separation Plan-MSP) ก็เป็นทางเลือกของพนักงานที่จะสมัครใจลาออกและรับเงินชดเชยไปได้
ส่วนแผนการลงทุนในโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO อู่ตะเภา) ต้องยอมรับว่าเป็นการลงทุนสูง ทำให้ในการเสนอแผนฟื้นฟูกิจการ เราก็จะมีระบุไว้ในแผนฟื้นฟูว่าการบินไทยจะขอพิจารณาศึกษาการลงทุน MRO อู่ตะเภาก่อน
เนื่องจากโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจอาจจะไม่ได้รุ่งเรืองตามแผนการลงทุนเดิมที่วางไว้ การบินไทยจึงขอเวลาในการศึกษาเพิ่มเติมก่อน
สำหรับแผนในการสร้างรายได้จากศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน ทั้งที่ดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดิมก็ให้บริการซ่อมบำรุงอากาศยานเครื่องบินของการบินไทยและสายการบินลูกค้าต่างๆ อยู่แล้ว
ต่อไปก็จะมีการสร้างรายได้จากฝ่ายช่างเพิ่มขึ้น ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนเวลาคิดค่าใช่จ่าย คิดราคาบริการ จะมีหน่วยงานด้านมาร์เกตติ้งเข้า เพื่อไปหาลูกค้าเข้ามา หรือจะไปร่วมลงทุนกับผู้เชี่ยวชาญหรือลูกค้า เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคต
ด้านแหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เผยว่า ปัญหาที่มาของฝ่ายช่าง ที่ทำให้ไม่สามารถทำกำไรได้ เหตุผลหลักคือ ค่าล่วงเวลาหรือค่าโอที ที่สูง ทำให้การปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ของการบินไทย บริษัทได้ปรับเกณฑ์ใหม่ เปลี่ยนมาคำนวณจากอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง แทนรูปแบบเดิมที่คำนวณจาก อัตราเงินเดือนค่าจ้าง/ชั่วโมง
โดยอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง จะคำนวณจากอัตราค่าจ้างรายชั่วโมง หารด้วย 240 (จำนวนชั่วโมงการทำงานในแต่ละวัน 8 ชั่วโมง คูณ ด้วยจำนวนวันใน 1 เดือน) ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่คำนวณจาก อัตราเงินเดือนค่าจ้าง/ชั่วโมง หารด้วย 173 ซึ่งจะเห็นว่าจำนวนของตัวหารเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราค่าล่วงเวลาที่คิดโดยใช้เกณฑ์ใหม่ปรับลดลงจากเดิม 50%
นอกจากนี้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 การบินไทยยังได้ออกประกาศแจ้งการปิดศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภาแล้ว โดยระบุว่าตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) แจ้งให้บริษัทการบินไทย ทราบความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ศูนย์ซ่อมอากาศ ยานแห่งที่ 2 (อู่ตะเภา) ที่บริษัท การบินไทย เช่าอยู่ตามสัญญา เพื่อใช้ก่อสร้างทางวิ่งที่ 2และอาคารผู้โดยสาร แห่งที่ 3 ในปี 2564
ให้สอดคล้องกับแผนดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งเป็นโครงการเพื่อประโยชน์ของรัฐ
ดังนั้นสกพอ. ต้องใช้ที่ดินดังกล่าว โดยได้บอกเลิกสัญญาเช่า และสัญญาเช่าสิ้นสุดลงวันที่ 28 ก.พ. 2564 พร้อม ทั้งนี้สกพอ.ขอให้ บริษัท การบินไทย รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างรวมทั้งขนย้ายทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือของผู้อื่นที่อยู่ในความครอบครองออกจากที่ดินเช่า และส่งมอบที่ดินเช่าให้ สกพอ. ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่สัญญาเช่าสิ้นสุดลง
ที่ประชุมคณะผู้ทำแผนฟื้นฟูกิจการบริษัท การบินไทย เมื่อวันที่ 17 ก.พ.2564 จึงมติให้บริษัทการบินไทย ปิดศูนย์ซ่อมอากาศยานอู่ตะเภา โดยให้มีผลวันที่ 31 มี.ค.2564 เป็นต้นไป ซึ่งพนักงานที่ทำงานอยู่ที่อู่ตะเภามีทั้งหมดราว 300 คน
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,658 วันที่ 4 - 6 มีนาคม พ.ศ. 2564
อีกทั้งล่าสุดทางเพจรักคุณเท่าฟ้า ยังได้โพสต์ถึงเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่างานเลี้ยง ย่อมมีวันเลิกลาขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 15 วัน
ศูนย์ซ่อมใหญ่อากาศยานอู่ตะเภา (UTP) ก็จะครบกำหนดปิดตัวลง หลังจากที่สำนัก งานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ขอแจ้งยกเลิกการใช้เช่าพื้นที่และขอให้ย้ายศูนย์ออกจากพื้นที่ เพื่อเตรียมส่งมอบที่ดินนำไปพัฒนาเมืองการบิน
ขอเป็นกำลังใจให้บุคลากรที่ทรงคุณค่ากว่า 300 ชีวิตให้ผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดี
และขอขอบพระคุณเครดิตภาพจากคุณ Navin Nualaroon
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :