เปิดใจ CEO ใหม่ ‘จินตนา’  กับพันธกิจพิชิต 4,000 ล้าน

11 ก.พ. 2564 | 00:55 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.พ. 2564 | 00:57 น.

เปิดตัว CEO ใหม่ถอดด้าม “สาวิตรี ธนาลงกรณ์” กับพันธกิจขับเคลื่อน “จินตนา” องค์กร 62 ปี สู่ภาพ ลักษ์ใหม่ พร้อมลงสนามชิงตลาดชุดชั้นใน หวังกวาดรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาทใน 5 ปี

กว่า 62 ปีที่แบรนด์ “จินตนา” โลดแล่นอยู่บนเส้นทางธุรกิจชุดชั้นใน อีกหนึ่งธุรกิจที่มีความท้าทายรอบด้าน โดยเฉพาะในโลกยุคใหม่ที่มีแต่ความเปลี่ยนแปลง ก้าวเดินของ “จินตนา” จึงมาสู่ “Change” ครั้งสำคัญ ที่ส่งต่อสู่ทายาทรุ่น 3 “สาวิตรี ธนาลงกรณ์” กับบทบาทใหม่ “ประธานบริหาร” บริษัท จินตนา อินเตอร์เทรด จํากัด ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา

พันธกิจรีแบรนด์ “จินตนา”

“สาวิตรี” เล่าให้ฟังว่า ถือเป็นความท้าทายมากกับการที่ต้องเข้ามาบริหารองค์กรใหญ่อย่าง “จินตนา” และเป็นยุคเปลี่ยนผ่าน แม้ตลอด 20 ปีที่เข้ามาร่วมงาน และช่วยสานต่อธุรกิจครอบครัว ได้ทั้งประสบการณ์ โอกาส และเห็นถึงศักยภาพ ทำให้เชื่อมั่นว่าแบรนด์ “จินตนา” มีความแข็งแรง และจะเดินหน้าสร้างและทำตลาดภายใต้แบรนด์ “จินตนา” ต่อไป

ยุทธศาสตร์รุกตลาดชุดชั้นใน

“แบรนด์จินตนา แข็งแรงมาก โดยเฉพาะในธุรกิจ OEM ซึ่งปัจจุบันรับจ้างผลิตให้กับ 25 แบรนด์ ด้วยบริการครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ วางแพทเทิร์น ผลิต ส่งออก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จินตนา ยังเดินหน้าได้อย่างแข็งแรง ท่ามกลางวิกฤติต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจการ์เม้นท์ประสบปัญหาอย่างหนัก แต่ในปี 63 โรงงานผลิตของจินตนามีออเดอร์เพิ่มขึ้นทำให้เติบโตกว่า 20% ขณะที่ในปี 64 ปัจจุบันมีออเดอร์การผลิตเต็ม 100% ไปจนถึงเดือนกันยายน ทำให้คาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตกว่า 30%”

ส่วนหนึ่งเพราะ สามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดี จากการปรับโครงสร้างองค์กรซึ่งทะยอยทำมาตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 61 และเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 2 ปี 62 เมื่อเกิดวิกฤติโควิด จึงสามารถรับมือได้ทันที

ทุ่มงบลงทุนสูงสุดในรอบ 20 ปี

“สาวิตรี” บอกอีกว่า ในปี 64 ถือเป็นก้าวย่างสำคัญ กับการลุกขึ้นมาปรับ “ReBrand” จินตนา ครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ด้วยเป้าหมายที่ต้องการลุคให้ทันสมัย ให้ดูเด็กลง รวมถึงขยายฐานลูกค้าซึ่ง ปัจจุบันลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มผู้มีอายุ 40-50 ปีขึ้นไป ส่วนกลุ่มเป้าหมายใหม่ จะเป็น ผู้หญิงในวัยทำงาน อายุ 28-30 ปีขึ้นไป โดยแบรนด์ “จินตนา” จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก ควบคู่กับการออก SubBrand และคอลเลคชั่นใหม่ๆ ที่ออกมาทำตลาดต่อเนื่อง

รวมทั้งการใช้เงินลงทุนอีก 100-200 ล้านบาท ถือเป็นการลงทุนใหม่สูงสุดในรอบ 20 ปี ในการขยายอาคารสำนักงาน โรงงานและกำลังการผลิตเพื่อรองรับตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันทั้งสองโรงงาน คือที่ นครปฐม มีพื้นที่ 10-12 ไร่ และนครราชสีมา มีพื้นที่ 8 ไร่ มีกำลังการผลิตค่อนข้างเต็ม จึงต้องมองหาลู่ทางในการขยาย รวมทั้งการเพิ่มเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

แบรนด์ “จินตนา”

“ปัญหาที่พบในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องของยอดขาย แต่เป็นเรื่องของแรงงาน ที่งานตัดเย็บ ยังจำเป็นต้องใช้แรงงานคนอย่างมาก แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทประสบปัญหาขาดแคลนอย่างมาก ซึ่งในอนาคตจำเป็นต้องมองหาเครื่องจักร เข้ามาช่วยเพื่อลดการใช้แรงงานและแก้ปัญหาขาดแคลน เพราะแรงงานในการตัดเย็บ ต้องเป็นแรงงานที่มีทักษะฝีมือมากพอควร”

ปูทางเข้าตลาดหุ้น

CEO คนใหม่ ยังกล่าวอีกว่า ด้านการตลาด บริษัทจะมุ่งขยายช่องทางการจำหน่ายให้หลากหลายยิ่งขึ้น จากเดิมที่เน้นร้านค้าทั่วไป ก็เริ่มหันมาทำออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงโควิดที่พบว่า ยอดขายในช่องทางออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้น 200-300% ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะยังคงเติบโตกว่า 100% ทำให้สัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 10% จากเดิมที่มีอยู่เพียง 5% และในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20%

สาวิตรี  ธนาลงกรณ์

“นอกจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโตแบบก้าวกระโดด บริษัทยังมีแผนขยายช่องทางไปยังร้านสะดวกซื้อ ทีวีช็อปปิ้ง แคตตาล็อก ซึ่งเริ่มพัฒนาคอลเลคชั่นใหม่ เพื่อให้เหมาะกับแต่ละร้านค้า และจะทะยอยเปิดตัวตั้งแต่ไตรมาส 2 นี้เป็นต้นไป”

“สาวิตรี” มองว่า แม้จะมีโควิด-19 แต่เชื่อว่า กำลังซื้อยังมีอยู่ จึงปรับแผนลดสินค้าในแนวแฟชั่นลง และเพิ่มสินค้าที่มีฟังก์ชั่นนอลมากขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้า ซึ่งในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้เติบโตขึ้น 30% จากปีก่อนที่มีรายได้กว่า 1,150 ล้านบาท และการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่นับจากนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้มีรายได้ทะลุ 4,000 ล้านบาทภายใน 5 ปี หรือปี 2568 พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อสร้างองค์กรให้แข็งแรงและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป 

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,650 วันที่ 4 - 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564