ยูฟาร์ม ส่งนวัตกรรม "หมูชีวา" เจาะตลาดคนรักสุขภาพ

07 ต.ค. 2563 | 12:20 น.

ยูฟาร์ม ขานรับนโยบาย 3S กระทรวงเกษตรฯ เปิดตัว “หมูชีวา” นวัตกรรมเนื้อหมู มีโอเมก้า 3 สูง ดึง ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีนและครอบครัว เป็นพรีเซ็นเตอร์ ทำมิวสิคมาร์เก็ตติ้ง เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรกและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากเป้าหมายการผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นครัวโลก กระทรวงเกษตรฯ จึงมีนโยบาย 3S เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย โดย 3S ประกอบด้วยกรอบการทำงานเกี่ยวกับ ความปลอดภัยของอาหาร (Safety) ความมั่นคงทางอาหาร (Security) และความยั่งยืนภาคเกษตร (Sustainability) เพื่อให้เกษตรกรและผู้ประกอบการผลิตอาหารที่ดีและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค ขณะที่ซีพีเอฟถือเป็นภาคเอกชนที่ช่วยขับเคลื่อนนโยบาย 3S ซึ่งล่าสุด ได้พัฒนาและต่อยอดนวัตกรรมอาหาร “หมูชีวา” 

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ ผู้ผลิตเนื้อสัตว์คุณภาพแบรนด์ “ยูฟาร์ม” กล่าวว่า ที่ผ่านมา ยูฟาร์มประสบความสำเร็จอย่างมากกับผลิตภัณฑ์ไก่เบญจา จึงได้ทำการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์เพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยมีการพัฒนานวัตกรรม “เนื้อหมูชีวา” เนื้อหมูมีโอเมก้า 3 สูง ที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ ทั้งทางด้านสุขภาพและหลักสวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare)

เนื้อหมูชีวา เป็นนวัตกรรมเนื้อสัตว์ที่ทำการพัฒนาหมู ตั้งแต่สายพันธุ์ อาหารที่เลี้ยง ตลอดจนวิธีการเลี้ยง เพื่อให้ได้มาซึ่งเนื้อหมูมีโอเมก้า 3 สูง ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยมีงานวิจัยรองรับ ตลอดจนได้รับการรับรองมาตรฐานการเลี้ยงจาก NSF ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำในด้านการรับรองความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับนานาชาติ และคว้ารางวัลสุดยอดนวัตกรรมอาหารจากงานแสดงสินค้าอาหารระดับโลก THAIFEX–Anuga Asia 2020
 

ผลิตภัณฑ์หมูชีวามุ่งเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นคนรักสุขภาพ พ่อแม่ยุคใหม่ที่ใส่ใจการเลือกอาหารให้ลูก ผู้ใหญ่วัยกลางคน และผู้ที่ต้องการฟื้นฟูสุขภาพ โดยได้เลือก ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ ดีนและครอบครัว เป็นพรีเซ็นเตอร์ และใช้การสื่อสารผ่าน Music Marketing เพลง “มันดีกว่าที่คิด มันดีต่อหัวใจ” ที่ขับร้องโดยลิเดีย 

ขณะที่การวางจำหน่ายจะใช้ช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ ได้แก่ CP FreshMart, The Mall, Tops, Foodland, Villa Market, Max Value, ริมปิง และโกลเด้นเพลซ โดยมีหลากหลายชิ้นส่วนให้เลือกปรุงเมนูได้ตามต้องการ อาทิ สันคอสเต๊ก สันนอก สามชั้น สะโพก และซี่โครงอ่อน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีแผนทำการตลาดร่วมกับร้านอาหารชั้นนำ ร้านอาหารระดับพรีเมียม รวมถึงร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นให้เกิดการทดลองบริโภคหมูชีวา ซึ่งก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในคุณภาพเนื้อหมูพรีเมี่ยมเพื่อสุขภาพอย่างหมูชีวาได้ในที่สุด

ด้าน น.สพ.สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ได้วาง “มาตรฐานปศุสัตว์โอเค” ซึ่งเป็นการกำกับดูแลการผลิตอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ตั้งแต่ต้นทางคือ ฟาร์ม โรงชำแหละ และจุดจำหน่าย รวมทั้งตรวจสอบย้อนกลับได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายอาหารปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้บริโภคเนื้อสัตว์ที่ดี โดยซีพีเอฟเป็นผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้ทั้ง 100% รวมทั้งมาตรฐานด้าน Animal welfare หรือ หลักสวัสดิภาพสัตว์ ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้เป็นอย่างดี “หมูชีวา” ถือเป็นต้นแบบของศักยภาพผู้ประกอบการไทย ที่มีการวิจัยพัฒนาและต่อยอดนำไปสู่นวัตกรรมอาหารของไทยที่ไม่แพ้ชาติอื่นในโลก  

 ดร.ไพรัตน์ ศรีชนะ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิชาการอาหารสัตว์บก กล่าวเสริมว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมอาหารสัตว์ ทำให้อาหารของหมูชีวามีความพิเศษและแตกต่างจากอาหารหมูทั่วไป เนื่องจากใช้ซูเปอร์ฟู้ดอย่างเมล็ด flaxseed น้ำมันปลา และสาหร่ายทะเลลึก มาเป็นวัตถุดิบในสูตรอาหาร เพื่อเป็นแหล่งของโอเมก้า3 ให้หมูชีวาสามารถสะสมสร้างเป็นไขมันดีเพื่อสุขภาพได้สำเร็จ   
 

สำหรับการเลี้ยงหมูชีวา จากพื้นฐานสำคัญของฟาร์มมาตรฐานปศุสัตว์โอเคของกรมปศุสัตว์ ซีพีเอฟได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดภายในฟาร์มระบบปิดที่มีการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด และเป็นโรงเรือนปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ ส่งผลให้หมูชีวาอยู่สบาย แข็งแรง ไม่ป่วย นอกจากนี้ยังเลี้ยงหมูชีวาใน “คอกขังรวม (Group Pen)” ตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ ให้แม่พันธุ์อุ้มท้องมีอิสระในการเคลื่อนไหวและมีปฏิสัมพันธ์กับสุกรตัวอื่นๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญคือไม่มีการใช้สารเร่งการเจริญเติบโต ปราศจากสารเร่งเนื้อแดง และไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ 100% ตลอดการเลี้ยงดู จึงมั่นใจได้ว่าหมูชีวาปลอดภัยและเหมาะมากสำหรับทุกคนในครอบครัว  
 
ด้าน รศ.นพ. กัมมาล กุมาร ปาวา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า แนวคิด “การกินอาหารเป็นยา” หรือ “Food as Medicine” เป็นทางเลือกของการกินอาหารเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดี และจากผลจากการทดสอบในสัตว์ทดลองบ่งชี้ว่าเมื่อสัตว์ทดลองทานอาหารที่ปรุงจากผลิตภัณฑ์จากหมูชีวา (น้ำมันหมู) ปริมาณไขมันในกระแสเลือด ซึ่งประกอบด้วย โคเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์, และ LDL นั้น มีปริมาณต่ำกว่าสัตว์ทดลองกลุ่มที่ทานอาหารที่ปรุงจากน้ำมันมะพร้าวอย่างมีนัยยะสำคัญ  
 “ผลการทดลองดังกล่าวเป็นผลมาจากการสะสมของกรดไขมันโอเมก้า 3 ในผลิตภัณฑ์หมูชีวาที่มีสูงกว่าเนื้อหมูทั่วไป  ซึ่งโอเมก้า3 นี้มีความสำคัญมากต่อสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากมีคุณสมบัติ ช่วยลดระดับไขมันในเลือด ทั้งโคเลสเตอรอล (Cholesterol), ไขมันชนิดไม่ดี (LDL), และไตรกลีเซอรืไรด์ (Triglyceride) ซึ่งจะมีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ” รศ.นพ. กัมมาล กล่าว