นายสุนทร รักษ์รงค์ กรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) และเลขาธิการสภาเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เรื่องขอความร่วมมือรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เนื่องด้วยช่วงเทศกาลหรือวันหยุดยาวในทุกปี พ่อค้าจะกดราคารับซื้อยาง ด้วยเหตุผลโรงงานไม่เปิด ต่างประเทศไม่รับซื้อ และในช่วงวันชาติจีน 1-8 ตุลาคม 2563 ก็เช่นกัน จึงทำให้พี่น้องชาวสวนยางถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะในภาวะปกติ ถ้าราคายางลดลง 1 บาท เงินในกระเป๋าเกษตรกรจะหายไป 11 ล้านบาท ลองคิดดูถ้าถูกกดราคา 10 บาท เงินหายไป 110 ล้านต่อวัน ถ้า 30 วัน =3,300 ล้านบาท ถ้า 365 วัน = 40,150 ล้านบาท
“ตอนนี้ปริมาณยางจะออกสู่ตลาดน้อย เพราะมีฝนตกในหลายพื้นที่ ตลาดกลาง 3 แห่งในภาคใต้ มียางแผ่นรมควันชั้น 3 เพียง 200-300 ตัน ซึ่งน้อยมาก แต่ก็ส่งผลต่อราคายางทั้งประเทศที่ใช้อ้างอิงประกอบกับรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดให้ยางพาราเป็นสินค้าควบคุม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ พ.ร.บ.ควบคุมยาง พ.ศ.2542 ดำเนินการตรวจสต็อก ทำให้พ่อค้าไม่สามารถกดราคายางให้ต่ำลงได้มากนัก อีกทั้งนโยบายแห่งรัฐ ที่เพิ่มการใช้ยางในประเทศในทุกช่องทาง เช่น การทำถนนดินยางพารา การทำแบริเออร์ การทำเสาหลักนำทาง เป็นต้น"
ประกอบกับสถานการณ์โควิด ทำให้เพิ่มการใช้ยางธรรมชาติเพื่อผลิตถุงมือทางการแพทย์ และหลายประเทศเพิ่มการผลิตยางล้อ จากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้นจากเศรษฐกิจโลกที่เริ่มคลายตัวหลังโควิดทำให้ราคายางพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 60 บาท(ราคายางแผ่นรมควัน FOB) จากสถานการณ์และข้อเท็จจริงข้างต้น จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องชาวสวนยาง เพื่อช่วยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการยาง เพื่อสร้างราคายางที่ดีแม้อยู่ในช่วงวันหยุดและช่วงเทศกาล ด้วยวิธี
1.ยุติข่าวลือ ข่าวปล่อย ว่าการยางแห่งประเทศไทยจะขายยางในสต็อก 104,000 ตัน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ด้วยเหตุผล มีมติของคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางระดับประเทศ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 และมติของคณะกรรมการรักษาติดตามและเสนอมาตรการแก้ไขปัญหายางพาราและรักษาเสียรภาพราคายางพารา ที่รัฐมนตรีแต่งตั้ง โดยมีมติวันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ให้ กยท.นำยางในสต็อกไปใช้ในประเทศ ห้ามนำออกมาซื้อขายในตลาด
2 .แจ้งให้ทราบว่ามติของคณะอนุกรรมการรักษาเสถียรภาพราคายาง การยางแห่งประเทศไทย เมื่อ 1 ตุลาคม 2563 ให้ กยท.โดยกองรักษาเสถียรภาพราคายางพารา เข้าซื้อยางในตลาดช่วงวันชาติจีน 1-8 ต.ค.2563 และ 3.ให้พี่น้องชาวสวนยางทั่วประเทศและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง สต็อกยางไว้ที่บ้าน ใต้ถุน และในโกดัง ในช่วงเวลาดังกล่าว ตามนโยบายชะลอการขายยาง ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.)