"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"

31 ก.ค. 2563 | 10:01 น.

ผู้บริหาร"สตาร์โดม"ยืนกรานไม่ออก หลังกองบิน 41 ขึ้นป้ายปิดพื้นที่ตั้งแต่ 1 ส.ค.นี้ แจงถูกปรับขึ้นค่าเช่าพรวดเดียว 5 เท่าทั้งที่เจอโควิด  300พนักงานเสี่ยงตกงาน


  "สตาร์โดม"ลั่นไม่ออก การต่อสัญญาเช่าสนามกอล์ฟพิมานทิพย์อึมครึม กองบิน41เชียงใหม่ ขึ้นป้ายครบสัญญาให้ผู้รับสัมปทานเดิมออก เพื่อเปิดประมูลใหม่ สั่งปิดพื้นที่ 1 ส.ค.นี้เป็นต้นไป ผู้บริหารสตาร์โดมร้องถูกบีบขึ้นค่าเช่าพรวด 5 เท่าทั้งที่เจอสถานการณ์โควิด นำ 300 พนักงานดื้อแพ่ง 
    

กรณีกองบิน 41 ในนามของกองทัพอากาศ(ทอ.) เจ้าของพื้นที่สนามกอล์ฟพิมานทิพย์ (สตาร์โดม) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ขึ้นป้ายประกาศแจ้งเจ้าของผู้รับสัมปทานบริหารสนามกอล์ฟฯ (คู่สัญญาเช่าพื้นที่) ให้ยุติกิจการและขอให้ออกจากพื้นที่ภายในวันนี้ (31 ก.ค.63) โดยมีข้อความว่า 
   "สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"  

กองบิน 41 แจ้งยุติกิจการและขอให้ออกจากพื้นที่ ตามที่ทางกองบิน 41 ได้อนุญาตให้ "บริษัท เดอะ สตาร์โดม จำกัด" ใช้ประโยชน์ในพื้นที่ของกองบิน 41 และสัญญาอนุญาตได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อ 30 เมษายน 2563 นั้น
    

บัดนี้ ได้สิ้นสุดระยะเวลาตามที่ทางกองบิน 41 ได้อนุโลมในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่แล้ว กองบิน 41 ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า การให้บริการสนามฝึกช้อมกอล์ฟในนาม "เดอะ สตาร์โดม และสนามฝึกซ้อมกอล์ฟพิมานทิพย์"จะสิ้นสุดลงอย่างป็นทางการใน 31 กรกฎาคม 2563 นี้ และกองบิน 41 จะปิดพื้นที่อย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
    

กองบิน 41 สงวนสิทธิ์ไม่มีความกี่ยวข้องกับการดำเนินการหรือสิทธิประโยชน์ใดๆ ระหว่างผู้ประกอบการพนักงาน ลูกจ้างหรือลูกค้าที่มีต่อ"เดอะ สตาร์โดม และสนามฝึกข้อมกอล์ฟพิมานทิตย์" ทั้งสิ้น จึงแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน
    

ประกาศของกองบิน 41 สร้างความสับสนให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้บริหารสนามกอล์ฟ พนักงาน ลูกจ้าง ตลอดจนลูกค้าสมาชิกสนามกอล์ฟอย่างมาก 
    

"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"

"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"

ล่าสุด ช่วงสายวันที่ 31 ก.ค.2563 ผู้บริหารสนามกอล์ฟฯ นำโดย ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์  แจ้งนัดเปิดการแถลงชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ณ บริเวณภายในสนามกอล์ฟสตาร์โดมฯ โดยมีผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ร่วมประชุม โดยเป็นที่น่าสังเกตว่ามีสื่อมวลชนมาร่วมสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก 
    

ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย.ทสห.บน.41 จำนวนกว่า 20 นายมาสังเกตการณ์ และไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟัง และไม่อนุญาตให้มีการแถลงข่าวใด ๆ โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่รับผิดชอบของทหารอากาศ เป็นพื้นที่หวงห้าม หากจะแถลงต้องทำเรื่องขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน โดยเหตุการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
  "สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"    

อย่างไรก็ตาม ดร.พรรณวิภา ได้นำคณะผู้บริหาร พร้อมพนักงาน และผู้เกี่ยวข้อง รวมทั้งแคดดี้กว่า 300 ชีวิต เข้ากราบสักการะศาลพระภูมิภายในสนามกอล์ฟเพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นพากันเดินออกจากพื้นที่นอกประตูสนามกอล์ฟ เพื่อให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน
    

ดร.พรรณวิภา กฤษฎาพงษ์  เปิดเผยว่า บริษัทสตาร์โดมฯ ได้ชนะการประมูล ได้รับสิทธิ์การบริหารสนามกอล์ฟแห่งนี้เป็นเวลา 30 ปี (ปี2550-2580) ซึ่งได้เข้าบริหารสนามกอล์ฟเรื่อยมา โดยบริษัทฯใช้เงินกว่า 200 ล้านบาท ลงทุนสร้างสนามกอล์ฟขนาดมาตรฐาน 9 หลุม มีสนามไดร์ฟ ความยาว 300 หลา 70 ช่องไดร์ฟกอล์ฟ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ปรับปรุงภูมิทัศน์ต่าง ๆ พร้อมที่จอดรถ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ    
    

ต่อมาได้รับแจ้งจากทางกองทัพอากาศว่า สัญญาเดิม 30 ปียาวนานเกินไป เกรงจะมีข้อจำกัดต่าง ๆ จึงขอให้ต่อสัญญาทุก ๆ 3 ปี และทุกสัญญาจะขอปรับเพิ่มค่าเช่าขึ้น 5% ทางบริษัทยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวและดำเนินการเรื่อยมา โดยสัญญาล่าสุดต่อปี 2560-2563 เมื่อครบกำหนดก็ได้รับแจ้งว่า ขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดสัญญาเช่าใหม่ โดยขอปรับค่าเช่าขึ้น 500% และยังระบุเงื่อนไขอีกว่า เนื้อหาในสัญญารวมถึงพื้นที่เช่านั้นจะถูกปรับแก้เมื่อไหร่ก็ได้ "ตรงนี้เราจะรับได้อย่างไร"
    
"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"

"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"

ดร.พรรณวิภา กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์โควิด ผลประกอบการสนามกอล์ฟลดลงอย่างมาก ต้องอยู่กันอย่างยากลำบาก จึงได้เข้าไปเจรจากับคู่สัญญาฯเพื่อขอความเห็นใจ แต่ไม่เป็นผล แถมทางคู่สัญญายังได้แจ้งอีกว่าจะเปิดประมูลให้เอกชนรายใหม่เข้ามาบริหาร โดยเปิดโอกาสให้สตาร์โดมมีสิทธิ์ร่วมการประมูลสัมปทานครั้งใหม่ ทั้งที่เรามีสัญญายาวถึงปี 2580 
    

บริษัทสตาร์โดม จำกัด เป็นบริษัทที่เข้ามาบริหารโดยผ่านการประมูลและคัดเลือกอย่างถูกต้อง และได้ปฏิบัติตามสัญญาอย่างเคร่งครัดเสมอมา แม้กระทั่งในช่วงวิกฤตโควิด-19 ก็ได้ปฏิบัติตามสัญญาอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่บริษัทขาดสภาพคล่องก็ได้มีการกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท ประการสำคัญคือ การเยียวยาประคับประคองพนักงานทั้งหมดของบริษัท ที่มีมากกว่า 300 ชีวิตที่จะต้องได้รับผลกระทบได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตการณ์ในครั้งนี้ ยังไม่นับสมาชิกในครอบครัวอีกเป็นจำนวนมาก
    

การกระทำของกองบินฯ41 โดยการขึ้นค่าตอบแทน และเพิ่มเงื่อนไขต่าง ๆ เป็นการสวนทางกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ที่ยังไม่รู้ว่าจะฟื้นตัวเมื่อไร เหมือนกับเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ และซ้ำเติมพนักงานที่แทบจะเอาตัวไม่รอด ทั้งยังสวนทางนโยบายรัฐบาล ที่ส่งเสริม SMEs เพื่อจะรักษาความสามารถในการจ้างงานไว้ ไม่ให้พนักงานต้องตกงานได้รับความเดือดร้อนเมื่อบริษัทต่าง ๆ ต้องปิดกิจการ ดังที่เป็นข่าวปรากฏอยู่ทั่วประเทศและทั่วโลก
    

“พนักงานเรา 300 ชีวิตจะอยู่ยังไง เราเป็นเอกชนไม่อยากจะมีเรื่องกับส่วนราชการอยู่แล้ว โดยเฉพาะทหาร ใคร ๆ ก็รู้ดี เราไม่อยากถูกรังแกจึงอยากขอความเห็นใจ ขอยืนยันว่าเราจะไม่ไปไหน จะเปิดให้บริการตามปกติ เพราะเรามีสิทธิ์โดยชอบธรรมตามสัญญา” ดร.พรรณวิภา กล่าว
    

ทั้งนี้ สื่อมวลชนยังไม่ได้รับการชี้แจงใด ๆ จากทางทอ.เพิ่มเติม หากมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป 

"สตาร์โดม"แข็งข้อทอ.ลั่นไม่ออก"สนามกอล์ฟพิมานทิพย์"