สังคมอยู่ไม่ได้  ธุรกิจครอบครัวก็อยู่ไม่ได้(จบ)

10 พ.ค. 2563 | 04:27 น.

ข่าวเศรษฐกิจ อัพเดทข่าววันนี้ ราคาทอง น้ำมัน ข่าวตลาดหุ้น การเงิน ธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ การตลาด เจาะลึกแบบตรงประเด็น | ฐานเศรษฐกิจ

บิสิเนส  แบ็กสเตจ

รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล

คณบดีคณะวิทยพัฒน์  และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

([email protected])

 

 ดังนั้น พวกเขาจะโน้มน้าวให้คนรุ่นอาวุโสที่ยังคงควบคุมการเงินให้ตัดสินใจลงทุนในเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร ทั้งนี้แนวทางในการสร้างผลกระทบทางสังคมในหมู่ธุรกิจครอบครัวและสำนักงานครอบครัวนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค ส่วนใหญ่เกิดจากแนวโน้มทางธุรกิจในอดีต เช่น ธุรกิจครอบครัวบางแห่งในสหรัฐอเมริกา หรือยุโรปมีการดำเนินงานมานานหลายทศวรรษหรือหลายศตวรรษ ดังนั้น จึงมีประวัติการทำกิจกรรมความรับผิดชอบต่อสังคมมายาวนาน ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับในออสเตรเลีย ซึ่งนโยบายการเข้าเมืองหลังสงครามของยุโรปทำให้โดยทั่วไปแล้วธุรกิจครอบครัวและสำนักงานครอบครัวจะมีอายุน้อยกว่าและเพิ่งเริ่มพัฒนานโยบายผลกระทบทางสังคมมากขึ้นเมื่อไม่นานมานี้เอง

สังคมอยู่ไม่ได้  ธุรกิจครอบครัวก็อยู่ไม่ได้(จบ)

 

อย่างไรก็ตามในขณะที่ธุรกิจครอบครัวทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับการลงทุนเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมอยู่นั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเหมือนดึงธุรกิจให้ออกไปอยู่ในท่ามกลางความขัดแย้ง เช่น สมาชิกในครอบครัวบางคนอาจไม่สนับสนุนการลงทุนกับเครือข่ายที่เป็นสาเหตุของความขัดแย้ง สินค้าหรือบริการที่ขัดแย้งกับพันธกิจของบริษัท ดังนั้นจึงอาจมีความกดดันมากที่จะต้องตั้งคำถามอยู่เสมอว่าเรากำลังทำสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เราสนับสนุนบริษัทที่ดีหรือไม่ เราลงทุนในบริษัทที่ดีหรือไม่

ดังนั้นหนึ่งในสิ่งแรกที่ผู้นำธุรกิจครอบครัวควรพิจารณาเมื่อกำลังจัดทำโครงการเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมคือการกำหนดแนวทางเกี่ยวกับความโปร่งใส โดยรายละเอียดทางธุรกิจบางอย่างอาจพิจารณาเมื่อกำลังจะลงทุนในโครงการเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม รวมถึงการพัฒนาสัญญา การออกแบบโครงการและการประเมินผลโครงการ อีกทั้งบริษัทควรมีไอเดียที่ชัดเจนเกี่ยวกับนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรที่ตั้งใจจะให้การสนับสนุนและขอหลักฐานสิ่งที่กำลังจะทำในเรื่องเหล่านั้นก่อนที่จะเริ่มลงทุน
 

แต่ในกรณีที่ครอบครัวไม่ได้พิจารณาโครงการในข้างต้นเลย ก็อาจจะได้ยินคำถามจากคนรุ่นใหม่ว่าทำไมผู้ก่อตั้งไม่สนับสนุนโครงการเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมบ้าง และวิธีหนึ่งที่สามารถทำได้คือการแนะนำแนวคิดนี้ให้กับกลุ่มสมาชิกในครอบครัวที่อายุน้อยหรือยังใหม่ในตำแหน่งที่มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนในเรื่องการให้ของบริษัทนั่นเอง ทั้งนี้จากการสำรวจธุรกิจครอบครัวทั่วโลกในปีนี้ผู้ถูกสำรวจ 2 ใน 3 คาดหวังที่จะส่งต่อธุรกิจให้กับคนในครอบครัว และหนึ่งในวิธีการสำคัญที่ธุรกิจเหล่านี้สามารถช่วยให้โครงการเพื่อสร้างผลกระทบทางสังคมของตนคงอยู่ได้นาน คือการทำให้สมาชิกในครอบครัวหลายรุ่นมีความเห็นสอดคล้องกันในเป้าหมายการลงทุนนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้    

 

ที่มา: Pagonis, Peter. 2020. Social responsibility: Whyfamily businesses give back. Private company issues and opportunities 2020 . Family business edition. Deloitte Touche Tohmatsu Limited.

ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th

 

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,573 วันที่ 10-13 พฤษภาคม 2563