วันที่ 10 ม.ค.2563 นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย(ส.ค.ย.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ผลสรุปมติเป็นที่เรียบร้อยว่าจะนัดชุมนุมในวันที่ 13 มกราคมนี้ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป ณ บริเวณสนามหน้าที่ทำการ องคการบริหารส่วนตำบลนาหมอบุญ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง ได้เสนอเรียกร้อง 5 ข้อ ได้แก่ 1.ให้มีมาตรการควบคุมการซื้อขายยางอย่างใกล้ชิดและจริงจังของตลาดซื้อขายยางพาราทุกชนิดภายในประเทศ อย่างยุตติธรรม โดยเกษตรกรไม่ถูกกดขี่จากกลุ่มพ่อค้าแบบเพิกเฉยและปล่อยปละละเลย
2.ให้ชดเชยเงินรายได้ชาวสวนยางตามโครงการ ด้วยสภาพราคาจริง ที่เกษตรกรขายได้ในแต่ละชนิดยาง ไม่อนุมานราคาเพียงเพราะเพื่อสลายสัญญาการหาเสียงทางการเมืองที่สมมุติขึ้น 3.โครงการชดเชยฯต้องครอบคลุมถึงเกษตรกรชาวสวนยางที่ปลูกไว้ในที่ดินอื่นๆ โดยไม่นับเอาเฉพาะสวนยางตามเอกสารสิทธิ์ที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)กำหนดและได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นกลุ่มจำกัด เพราะเป็นเงินโครงการที่มาจากงบประมาณส่วนกลาง ไม่ใช่เงินของ กยท.แม้แต่สักบาท
4.ต้องดูแลและให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน อุปกรณ์และการค้ำประกันเครดิตเพื่อช่วยพยุงเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรที่แปรรูปยางอย่างทั่วถึง จากที่ต้องประสบภาวะการขาดทุนมาต่อเนื่อง และต้องแบกรับภาระหนี้สินล้นพ้น โดยช่องทางและตามข้อบังคับคณะกรรมการการยาง ที่ครม.กำหนดและ ประกาศในราชกิจนุเบกษาของมาตรา 49(3) โดยไม่เลือกละเว้นและเลือกปฏิบัติ 5.ต้องตรวจสอบและดำเนินการเอาผิดให้ถึงที่สุด ต่อพนักงานหรือข้าราชการทุกระดับ ที่เคยทุจริต และกำลังทุจริตในโครงการต่างๆซึ่งทำให้เงินส่วนราชการและเงินของการยางฯเสียหายสูญเปล่า
ดังนั้นหากรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง และผู้บริหารระดับสูงของการยางฯ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาตาม 5 ข้อเบื้องต้นนี้ได้ ก็ไม่สมควรจะนั่งในตำแหน่งให้เสียโอกาสของความสุขเกษตรกรชาวสวนยาง เพราะในรัฐบาลนี้ประกอบด้วยหลายๆพรรคการเมือง และมีจำนวนสส.อีกหลายร้อยคน จึงควรเสียสละตำแหน่งเพื่อเปลี่ยนแปลงให้พรรคหรือคนอื่นๆมาทำหน้าที่แทน