พลิกโฉม อ.ต.ก.  ปั้นตลาด 2 หมื่นล้าน ผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจ

30 พ.ค. 2562 | 04:45 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

 

 

องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร หรือ อ.ต.ก. รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญที่รัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยเหลือเกษตรกรผ่านโครงการต่าง ๆ อาทิ โครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ยังเป็นมหากาพย์การทุจริตอย่างมโหฬารถึง ณ วันนี้ ปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะรู้จัก อ.ต.ก. ว่าเป็นตลาดเกรดพรีเมียมที่ยังต้องหารายได้เลี้ยงตัวเอง “ฐานเศรษฐกิจ” ฉบับนี้สัมภาษณ์พิเศษ “กมลวิศว์ แก้วแฝก” ผู้อำนวยการ อ.ต.ก.ถึงทิศทาง และอนาคตของ อ.ต.ก.ที่กำลังพลิกโฉมครั้งใหญ่

มุ่งงานธุรกิจ 60%

“กมลวิศว์” กล่าวว่า อ.ต.ก.ต้องเร่งสร้างฐานองค์กรให้มีความมั่นคง ซึ่ง ณ วันนี้ อ.ต.ก.ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทจากเดิมทำงานตามนโยบายรัฐ 70% ค้าขาย 30% แต่วันนี้เปลี่ยนเป็นงานนโยบาย 40% ค้าขาย 60% มีการปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่มีหน่วยธุรกิจเกิดขึ้น ประกอบด้วย 2 ฝ่ายคือ ฝ่ายตลาดกับฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่า 2 ฝ่ายนี้ 1. จะสร้างมูลค่าการตลาดให้กับสินค้าเกษตร 2. สร้างรายได้ให้กับ อ.ต.ก.ให้สามารถเลี้ยงตัวเองได้อย่างยั่งยืน

พลิกโฉม อ.ต.ก.   ปั้นตลาด 2 หมื่นล้าน  ผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจ

                                                          กมลวิศว์ แก้วแฝก

ปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2562 จะเป็นองค์กรที่ไม่ขาดทุน ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าในช่วงที่ทำงานนโยบายรัฐบาล ถ้ารัฐบาลไม่มีโครงการรายได้ก็ไม่มี แต่พอมาทำเรื่องธุรกิจของตัวเองขึ้นมาก็มั่นใจว่าภายในปีนี้จะสร้างฐานรายได้ให้เลี้ยงตัวเองได้ ซึ่งความจริงปีที่แล้วเกือบล้างขาดทุนได้แล้ว ถ้าการรถไฟฯ ไม่ขึ้นค่าเช่าอีกเท่าตัว ส่งผลให้ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรที่ขาดทุนถ้าสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรก็ถือว่าคุ้ม

“วันนี้ได้นำเกษตรกรทั่วประเทศมาขายสินค้าที่ อ.ต.ก. ไม่ได้ต้องการให้ได้ยอดขาย แต่ต้องการให้มาเรียนรู้ตลาด ว่าทำไมตลาด อ.ต.ก.จึงขายของแพงได้ ซึ่งมีหลายกลุ่มเกษตรกรที่มาขายแล้วจับคู่เจรจาธุรกิจกันต่อหลายรายมาก จากขายปลีก เป็นขายส่ง จะเห็นระบบว่าทำไมถึงขายแพงได้ แล้วกลับไปพัฒนาสินค้าตัวเอง ตรงนี้คือสิ่งที่อยากเห็น ซึ่ง อ.ต.ก. พยายามส่งเสริมเกษตรกรที่เป็นวิสาหกิจชุมชนหรือกลุ่มเกษตรกรเพื่อต่อยอดให้เป็นเอสเอ็มอี หรือสตาร์ตอัพต่อไป”


 

 

 

ปั้นแบรนด์ “วัวไทย” ลุยจีน

อ.ต.ก.ยังได้ไปเจรจากับสมาคมพ่อค้าจีนเพื่อถือหุ้นร่วมกันในการผลิตนมภายใต้แบรนด์วัวไทย โดยดึงองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ทำเอ็มโอยูร่วมกัน ซึ่งสามารถทำได้เลยเนื่องจากเป็นธุรกิจของ อ.ต.ก.ไม่ต้องขอมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบ โดยใช้โลโกไทย-เดนมาร์ค หากจดทะเบียนได้ ก็สามารถทำตลาดได้ทันที เพราะ อ.ส.ค.พร้อมผลิต ฝ่ายทางจีนก็พร้อมที่จะนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดจีน คาดประมาณกลางปี 2563 จะเห็นรูปธรรม

“คนจีนชอบสินค้าไทยมาก โดยเฉพาะนมจิตรลดา รองลงมาคือนมไทย-เดนมาร์ค ซึ่งฝ่ายจีนบอกกับผมว่าไม่ต้องคิดว่าจะทำการตลาดได้เท่าไร แต่กังวลว่าคุณจะผลิตให้ผมพอไหม”

ขณะที่โครงการตลาดสินค้าเกษตรคุณภาพ หรือ มินิ อ.ต.ก. จะเป็นช่องทางขยายสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ทั้งสินค้าเกษตร GAP เกษตรอินทรีย์ และสินค้าปศุสัตว์ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรมีรายได้และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยอ.ต.ก.จะเป็นตัวกลางในการจัดหา รวบรวมสินค้าจากสถาบัน เกษตรกร และกระจายสู่ผู้บริโภค โดยจัดหาพื้นที่ในส่วนภูมิภาคที่มีศักยภาพ เชื่อมโยงสินค้าเกษตรระหว่างภูมิภาค โดยใช้ร้านค้าสินค้าเกษตรคุณภาพ อ.ต.ก. เป็นจุดรวบรวม และกระจายสินค้า พร้อมทั้งดำเนินการซื้อขายผ่านระบบ Online ปัจจุบันเปิดแล้ว 16 แห่ง อาทิ สงขลา สระบุรี ขอนแก่น นครพนม อุดรธานี พิษณุโลก กรุงเทพฯ ศรีสะเกษ ฯลฯ คาดจะทำให้ครบ 20 แห่งภายในปีนี้

 

ผนึกพันธมิตรขยายธุรกิจ

“กมลวิศว์” กล่าวอีกว่า ร้าน อ.ต.ก. ปัจจุบันได้ไปเปิดในสถานีนํ้ามัน ปตท. 2 สาขาที่พิษณุโลกและนครพนม ล่าสุดได้เซ็นเอ็มโอยูกับ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) ในโครงการ “The Jas Amata Nakorn ณ ศูนย์การค้าแห่งใหม่ย่านนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวัดชลบุรี คาดว่าจะเปิดให้บริการต้นปี 2563 โดยบริษัทเป็นผู้ลงทุนโครงสร้างทั้งหมด จ้าง อ.ต.ก.เป็นคนบริหารแล้วนำรายได้มาแบ่งกัน ส่วนหนึ่งภายใต้เงื่อนไขต้องมีพื้นที่ไว้หมุนเวียนสินค้าเกษตรกรให้ขายฟรีและอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่หารายได้ภายใต้การบริหารของ อ.ต.ก.เอง ต่อไปจะขยายไปจังหวัดอื่นๆ

“อ.ต.ก.พร้อมที่จะร่วมมือกับเอกชนในการทำธุรกิจเพื่อสู่ปี 2564 ที่ อ.ต.ก.มีเป้าหมายต้องสร้างมูลค่าตลาดไม่น้อยกว่า 2 หมื่นล้านบาท สิ่งสำคัญคือ ทำให้แน่ใจว่า แบรนด์ “อ.ต.ก.” เข้มแข็งไม่เฉพาะในประเทศเท่านั้นแต่ยังเป็นที่รู้จักของทั่วโลก”

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3474 วันที่ 30 พฤษภาคม -1 มิถุนายน 2562 

พลิกโฉม อ.ต.ก.   ปั้นตลาด 2 หมื่นล้าน  ผนึกพันธมิตรลุยธุรกิจ