4 สหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ยื่นหนังสือค้าน 13 กฎหมายลูกประกอบพระราชบัญญัติสหกรณ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 ปีพ.ศ. 2562 ตามมาตรา 89/2 ชะลอออกไปก่อน ผวามีปัญหาในการปฏิบัติธุรกรรมทางการเงิน ด้าน กรมส่งเสริมสหกรณ์ รับฟังข้อท้วงติง เปิดเวทีรับฟังต่อ 15พ.ค. ร่วม 2 พันสหกรณ์จัดประชุมคอนเฟอเรนซ์ทั่วประเทศ ใครมีปัญหาซักถามได้ทันที
รายงานข่าวจากเวทีรับฟังความคิดเห็นร่าง อนุบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนขนาดใหญ่(14พ.ค.62) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีตัวแทน 4 สหกรณ์ออมทรัพย์ ประกอบด้วยชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศฯไทย,ชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไทย ชมรมสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐวิสาหกิจ และชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจ มายื่นหนังสือเพื่อ.ขอให้ชะลอการอออกกฎกระทรวงนี้ไปก่อน ให้พิจารณาให้รอบคอบเกรงว่าเมื่อบังคับใช้แล้วจะเป็นปัญหาในทางปฏิบัติ อาทิ เรื่องการลงทุนของสหกรณ์ การรับฝากเงิน การให้กู้เงินแก่สมาชิก การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ เป็นต้น
ด้านนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมรับฟังความเห็นพิจารณาร่างกฎกระทรวง กล่าวว่า เป็นการรับฟังความคิดเห็นกฎหมายลูกประกอบพระราชบัญญัติสหกรณ์ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 3 ปีพ.ศ. 2562 ตามมาตรา 89/2 จำนวน 13 ฉบับ โดยมีผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนที่มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้น เข้าร่วมเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดทำเป็นกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนเป็นการเฉพาะ
“ โดยแบ่งเป็น 1.การกำหนดขนาดของสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 2.การกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอื่นของกรรมการดำเนินการสหกรณ์และผู้จัดการ 3.การกำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ 4.การให้กู้และการให้สินเชื่อ 5.การรับฝากเงิน การก่อหนี้ และการสร้างภาระผูกพัน ซึ่งรวมถึงการกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกันด้วย 6.การดำรงเงินกองทุน 7.การบริหารสินทรัพย์และการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง 8.การฝากเงินหรือการลงทุน 9.การกำกับดูแลด้านธรรมาภิบาล 10.การจัดชั้นสินทรัพย์และการกันเงินสำรอง 11.การจัดทำบัญชี การจัดทำและการเปิดเผยงบการเงิน การสอบบัญชี และการแต่งตั้งผู้สอบบัญชี 12.การจัดเก็บและรายงานข้อมูล และ 13.เรื่องอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานและกำกับดูแล”
ทั้งนี้ ในการจัดทำร่างกฎกระทรวงตามมาตรา 89/2 จำนวน 13 ฉบับนั้น กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ประชุมหารือร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ยกร่างจนเสร็จสิ้น และได้มีการประชุมรับฟังความเห็นเบื้องต้นจากผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตสหกรณ์ยูเนี่ยนเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะนำขึ้นเผยแพร่ทางเว็บไซต์กรมส่งเสริมสหกรณ์ เพื่อให้ผู้เกี่ยวข้องได้เสนอความคิดเห็น และในครั้งนี้กรมฯ ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการออกกฎกระทรวง ตามมาตรา 89/2 จากตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน ขนาดใหญ่ มีสินทรัพย์ตั้งแต่ 5,000 ล้านบาทขึ้น ซึ่งมีจำนวน 154 แห่ง และวันที่ 15 พฤษภาคม 2562 จะมีการประชุมรับฟังความเห็นจากตัวแทนสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยนที่มีสินทรัพย์ต่ำกว่า 5000 ล้านบาท ซึ่งมีอยู่จำนวน 1,771 แห่งทั่วประเทศ โดยจะมีการถ่ายทอดผ่าน Video Conference ไปยังทุกจังหวัดด้วย
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ที่เชิญสหกรณ์มาเพื่อที่จะให้เขานำเสนอจากร่างที่เราได้ร่างไว้ แล้วทางสหกรณ์มีความคิดเห็นอย่างไร มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง มีข้อเสนอแนะอย่างไรที่เห็นว่าเป็นปัญหาอุปสรรค หรือจะไม่สามารถทำได้หลังจากออกกฎกระทรวงไปแล้ว เพราะไม่อยากให้มีปัญหาตามมาว่า ออกไปแล้วและไม่สามารถบังคับใช้ได้ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมาในขบวนการสหกรณ์ และในการออกกฎกระทรวงคราวนี้ต้องการความมั่นคงในการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์และเครดิตยูเนี่ยน เนื่องจากว่าในปัจจุบันนี้ในขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมีสินทรัพย์เป็นจำนวนมาก ประมาณ 3 ล้านล้าน สินทรัพย์ในขบวนการสหกรณ์
“ส่วนหนึ่งเราจะต้องสร้างหลักเกณฑ์ที่จะคอยดูแล ให้การดำเนินงานของสหกรณ์เป็นไปโดยราบรื่น ไม่เกิดปัญหาขึ้นเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิก ซึ่งสมาชิกส่วนหนึ่งก็เป็นผู้ที่ถือหุ้นในสหกรณ์ ฝากเงินในสหกรณ์ ส่วนหนึ่งก็มีสมาชิกที่มากู้ยืมไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตของเขา ในสหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน และในขณะนี้เงินในขบวนการสหกรณ์เหลือจากการที่ให้สมาชิกกู้ ก็จำเป็นที่จะต้องไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เงินลงทุนของสหกรณ์จะไปลงทุนอะไรบ้าง ไปลงทุนในหุ้นตัวไหนบ้าง ก็มีกรอบกำหนดไว้ อันนี้ก็จะสร้างความมั่นคง และก็สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่สมาชิกของสหกรณ์”
“จากการที่ได้เข้ารับฟังส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการให้กู้แก่สมาชิกของสหกรณ์ เพราะว่าเราก็ทราบดีว่าสมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีเงินได้ประจำ เป็นผู้ที่ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรม ถ้าเป็นสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนก็จะเป็นชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำ ประกอบอาชีพขับรถรับจ้าง ฯลฯ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงิน ถ้าเกณฑ์ต่างๆ ที่ออกมาตึงจนเกินไป ก็เหมือนว่าเราผลักให้ไปกู้จากหนี้นอกระบบ ซึ่งอันนี้ก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา ดังนั้นในบางส่วนที่ขบวนการสหกรณ์มีความกังวลก็คือว่าอยากจะให้ผ่อนคลายในเกณฑ์บางอย่างที่ให้สหกรณ์เขาสามารถขยับตัวได้”
เช่นเรื่องของค่างวดชำระหนี้ ถ้าสั้นไปกำลังในการส่งของสมาชิกก็ไม่สามารถที่จะส่งได้ เขาก็มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในทางอื่น เช่นส่งลูกเรียน มีภาระที่จะต้องผ่อนบ้านก็เห็นใจว่าส่วนหนึ่งของสมาชิกสหกรณ์คือคนที่ลำบาก ก็ช่วยเหลือกันเองในวงสหกรณ์ ส่วนคนที่มีเงิน อาจจะเป็นผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานมีเงินเหลือมากกว่าก็มาฝาก มาถือหุ้นในสหกรณ์ ก็ดูแลในเรื่องของเงินปันผล เงินเฉลี่ยคืน และอื่นๆ ที่ให้ทุกฝ่ายที่อยู่ในขบวนการสหกรณ์ได้รับประโยชน์โดยเท่าเทียมกัน ก็ เพราะข้อท้วงติงในเรื่องการกำหนดกฎกระทรวง บางข้ออาจจะมีความรุนแรงเกินไป บางข้ออาจจะอ่อนเกินไปให้เพิ่มเติมเป็นการแสดงความคิดเห็นที่ค่อนข้างหลากหลาย และก็เป็นประโยชน์ค่อนข้างมากที่ทางกรมจะนำไปปรับแก้ไข ก่อนที่จะเป็นร่างกฎกระทรวงบังคับใช้ต่อไป