แก้หนี้สำเร็จ! สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ ตบเท้าขอบคุณรัฐสางหนี้เกษตรกรกว่า 121 ล้าน ได้ข้อยุติพอใจ พักดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างเงินต้นใหม่ ผ่อนยาว 20 ปี ลดปัญหาขายทอดตลาดหลักทรัพย์ ... 'กฤษฎา' โชว์ผลงาน "รัฐบาลบิ๊กตู่" ประสานสิบทิศ ผนึกสถาบันการเงินอุ้มเกษตรกรกว่า 2.9 หมื่นราย เม็ดเงินกว่า 6 พันล้าน รักษาที่ดินทำกินไว้กว่า 4 พันแปลง หวังส่งที่ดินให้เป็นมรดกสืบทอดต่อไป
วันนี้ (15 มี.ค. 62) เวลา 09.00 น. นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เปิดเผยเมื่อ 14 มี.ค. 2562 การประชุมคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรเฉพาะกิจ ครั้งที่ 1/2562 วันที่ 14 มี.ค. 2562 เนื่องจากมีเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) ได้เรียกร้องขอให้ช่วยในเรื่องการชำระหนี้แทนเกษตรกร ซึ่งเป็นลูกหนี้สหกรณ์การเกษตร ลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์ นิติบุคคล และขอความร่วมมือกับสหกรณ์เจ้าหนี้ทั่วประทศ รวมทั้งธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคล ชะลอการดำเนินคดีกับเกษตรกรออกไป 2 ปี เพื่อลดปัญหาการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้ นายณรงค์ อ่อนสอาด ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายดลเดช พัฒนรัฐ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการหารือร่วมกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สหกรณ์เจ้าหนี้ของเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคล จนได้ข้อยุติว่า กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรสามารถเข้าไปชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์และธนาคารต่าง ๆ แทนเกษตรลูกหนี้ หลังจากนั้น ให้เกษตรกรลูกหนี้มาทำสัญญาชำระหนี้ให้แก่กองทุนฟื้นฟูฯ แทน พร้อมอัตราดอกเบี้ยระหว่างร้อยละ 0.50-1.50 บาทต่อปี และโอนหลักทรัพย์ค้ำประกันมาเป็นของกองทุน และคืนหลักทรัพย์เมื่อชำระหนี้ครบตามสัญญา ภายในระยะเวลาไม่เกิน 20 ปี
เป็นไปตามผลการศึกษาของที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และคณะทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ศึกษาไว้ ซึ่งทำให้สามารถทุเลาความเดือดร้อนในเรื่องหนี้สินเกษตรกรได้ จำนวน 131 ราย คิดเป็นมูลหนี้รวม 121,451,941.93 บาท และยังเห็นชอบให้จัดการหนี้ลูกหนี้ธนาคารพาณิชย์และนิติบุคคลอีกจำนวน 10 ราย มูลหนี้รวม 3,237,124.54 บาท และชะลอการดำเนินคดีกับเกษตรกรออกไป 2 ปี เพื่อลดปัญหาการบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ ในการชำระหนี้แทนเกษตรกรครั้งนี้ กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 15 วัน หรือ ไม่เกิน 31 มี.ค. 2562 เพื่อให้สถาบันเจ้าหนี้สามารถปิดบัญชีลูกหนี้ได้ทันในปีงบประมาณ 2561 ของสหกรณ์การเกษตร
นอกจากนี้ ในช่วงเดือน ส.ค. 2561 มีเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้ร้องขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เจรจากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ในการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เจรจาสำเร็จ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ เมื่อวันที่ 2 ต.ค. 2561 ให้กับลูกหนี้ที่เป็นหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2560 จำนวน 36,605 ราย คิดเป็นยอดหนี้เงินต้น 6,382 ล้านบาท และดอกเบี้ย 3,829 ล้านบาท
โดยเงินต้นครึ่งหนึ่งให้เกษตรกรผ่อนจ่ายตามกรอบเวลาไม่เกิน 15 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยที่อัตรา MRR-3 และเมื่อเกษตรกรผ่อนจนหมดแล้ว ธกส. จะพิจารณายกดอกเบี้ยที่พักไว้ให้ ส่วนเงินต้นที่เหลืออยู่อีกครึ่งก็ให้เกษตรกรมาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ ดังนั้น เมื่อพิจารณาผลงานแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ซึ่งเป็นหนี้สินตั้งแต่การจัดตั้งกองทุนฯ ตามกฎหมาย ตั้งแต่ปี 2543 มานั้น รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงถือได้ว่าเป็นรัฐบาลแรกที่ได้เข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฯ ได้อย่างเป็นระบบ โดยไม่เสียวินัยการเงินการคลังของประเทศ
สำหรับข้อมูลขึ้นทะเบียนของเกษตรกรสมาชิก จำนวน 518,992 ราย ยอดหนี้รวม 88,495 ล้านบาท กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรได้ดำเนินการชำระหนี้แทนให้เกษตรกรสมาชิกไปแล้วทั้งสิ้น 29,219 ราย 29,270 บัญชี เป็นเงินกว่า 6,091,709,114.26 บาท เป็นลูกหนี้สหกรณ์ 21,362 ราย 21,392 บัญชี จำนวนเงิน 3,275,141,572.32 บาท รักษาที่ดินทำกิน 4,244 แปลง 33,156 ไร่ 2 งาน 12.7 ตารางวา ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการรักษาที่ดินทำกินให้เกษตรกร ส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป