‘ไมโล’ชงสูตรใหม่ รับเทรนด์สุขภาพ
“ไมโล” ส่งสูตรหวานน้อยรับมาตรการภาษีนํ้าหวาน ส่งยูเอชทีสูตรใหม่ บุกตลาดช็อกโกแลต มอลต์กว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมทุ่มงบกว่า 200 ล้านบาท ปั้นแบรนด์ครบวงจร
นายไชยงค์ สกุลบริรักษ์ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์นมและโภชนาการ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นโยบายของการทำตลาดของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการทำตลาดเชิงรุกเพื่อขานรับนโยบายของภาครัฐในส่วนของภาษีนํ้าหวาน ผ่านการให้ความรู้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางเลือกใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริโภค เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในปัจจุบัน ซึ่งจากปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว ไมโลสูตรนํ้าตาลน้อยกว่า 30% ซึ่งผลตอบรับจากผู้บริโภคค่อนข้างดีและมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้บริษัทได้เปิดตัว ไมโล ยูเอชที สูตรไม่มีนํ้าตาล เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพและมองหาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีนํ้าตาลมากขึ้น อีกทั้งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมให้มีการบริโภคนํ้าตาลอย่างเหมาะสมอีกด้วยพร้อมกันนี้ยังได้ใช้งบการตลาดกว่า 200 ล้านบาท ในการจัดทำกิจกรรมสื่อสารทางการตลาดอย่างครบวงจร ผ่านสื่อดิจิทัลที่หลากหลาย รวมไปถึงจัดทำสื่อให้ความรู้เรื่องการ บริโภคนํ้าตาลที่เหมาะสม อีกด้วย โดยเน้นเจาะกลุ่มแม่ที่มีลูกอายุ 7-12 ปีที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัท ควบคู่กับการนำร่องวางจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นกว่า 1.2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ ก่อนจะกระจายไปยังช่องทางโมเดิร์นเทรดทั่วประเทศช่วง 3 เดือนนับจากนี้
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายที่จะสร้างการเติบโตในระยะยาวพร้อมทั้งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่งให้แก่บริษัท อีกทั้งยังเป็นการขานรับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการบริโภคนํ้าตาลที่เหมาะสมแก่ประชาชน โดยปัจจุบันภาพรวมตลาดเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์มีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น ช็อกโกแลตมอลต์พร้อมดื่ม 6,000 ล้านบาท เติบโต 10% และรูปแบบผงพร้อมชง 4,000 ล้านบาท เติบโต 2% โดยไมโลมีส่วนแบ่ง 30% อยู่ในอันดับ 2 ทั้งนี้คาดการณ์ว่าภายหลังจากเปิดตัวสินค้าใหม่ดังกล่าวจะสามารถผลักดันให้ไมโลเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้ราว 35%
“ปัจจุบันเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์แบบมีนํ้าตาล มีการเติบโตราว 4-5% ต่อปี ขณะที่ในตลาดเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันไมโลมีสัดส่วนเครื่องดื่มช็อกโกแลตมอลต์แบบทั่วไป 80% และสูตรไม่มีนํ้าตาล 20%”
หน้า 30 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3451 ระหว่างวันที่ 10 - 13 มีนาคม 2562
