"3 องค์กรสื่อ" ค้านพักใบอนุญาต "วอยซ์ทีวี" ชี้! ขัดหลักเสรีภาพใน รธน.

13 ก.พ. 2562 | 10:10 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

วันที่ 13 ก.พ. 2562 - 3 องค์กรสื่อ ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกันออกแถลงการณ์ เรื่อง : หยุดลิดรอนเสรีภาพสื่อและประชาชนและทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี

debc1a45-c5be-4e86-8661-953f8076a58e

เนื้อหาระบุว่า เนื่องจากกรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีเป็นเวลา 15 วัน มีผลตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. เป็นต้นไป ทั้งนี้ เป็นการพิจารณาภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 มาตรา 37 ซึ่งหากยังไม่ปรับปรุงจะเพิ่มโทษอีก หรือถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต โดยรายการที่ กสทช. อ้างเป็นเหตุพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี 2 รายการ คือ รายการ Tonight Thailand ออกอากาศวันที่ 16 ธ.ค. 2561 และรายการ WAKE UP THAILAND ออกอากาศวันที่ 21, 28, 29 ม.ค. และ 4 ก.พ. 2562 เนื่องจากเป็นการนำเสนอรายงานข่าวที่มีลักษณะส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่น ให้เกิดความขัดแย้งตามความทราบแล้วนั้น

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ไม่เห็นด้วยกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนดังกล่าว ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1.การใช้ดุลพินิจพักการใช้ใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีครั้งนี้ ก่อให้เกิดผลกระทบสถานีในฐานะเป็นองค์กรธุรกิจและองค์กรสื่อมวลชน ที่มีคนทำงานอยู่ในหลายส่วน ซึ่งบางส่วนอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของรายการหรือมีส่วนรับรู้ในการกระทำของพิธีกรบางรายการ แต่ได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้น การที่ กสทช. ใช้การใช้อำนาจสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีทั้งสถานี ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบและความเสียหายที่รุนแรงยิ่งกว่า โดย กสทช. ที่เป็นองค์กรผู้ออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบการสื่อ และทำหน้าที่กำกับดูแลจะต้องใช้อำนาจด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เป็นการจำกัดเสรีภาพของสื่อและองค์กรธุรกิจเสียเอง

ในกรณีของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีนั้น หากพบว่า รายการใดมีปัญหาควรพิจารณาเป็นกรณีไป ไม่ใช้อำนาจพักใบอนุญาตทั้งสถานี หรือหากการนำเสนอเนื้อหาของสถานีมีผลกระทบ หรือ ละเมิดสิทธิบุคคล ด้วยการหมิ่นประมาทบุคคลอื่น ผู้เสียหาย หรือ ผู้มีส่วนได้เสีย ย่อมใช้สิทธิแจ้งความดำเนินคดี หรือ ฟ้องร้องตามกฎหมายปกติได้อยู่แล้ว

2.คำสั่งของ กสทช. ดังกล่าว ขัดแย้งกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่ระบุว่า การสั่งปิดกิจการหนังสือพิมพ์ หรือ สื่อมวลชนอื่น เพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพจะกระทำมิได้ ดังนั้น การใช้อำนาจของ กสทช. ออกคำสั่งครั้งนี้ จึงขัดแย้งกับหลักการพื้นฐานในการรับรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสื่อมวลชน และกระทบต่อการรับรู้ข่าวสารของประชาชน โดยขณะนี้บรรยากาศช่วงรณรงค์หาเสียงควรเอื้อต่อการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อและประชาชน เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน

3.ขอเรียกร้องสื่อมวลชนทุกแขนง ทำหน้าที่รายงานข่าวสารอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยกำลังกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย สื่อต้องระมัดระวังในการรายงานข่าวเลือกตั้ง ไม่ให้มีลักษณะว่าเข้าข้างหรือเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องหลีกเลี่ยงการรายงานข่าวด้วยการใช้วาทกรรมที่ก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างคนในชาติ และอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความรุนแรงดังที่เคยเกิดมาแล้ว

จากเหตุผลดังกล่าว องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนทั้งสามขอเรียกร้องให้ กสทช. ได้ทำหน้าที่ในฐานะองค์กรอิสระอย่างแท้จริง โดยใช้อำนาจด้วยระมัดระวังด้วยการเร่งทบทวนคำสั่งพักใบอนุญาตสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวี เพื่อให้สังคมไทยได้เดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยบรรยากาศที่เกื้อหนุนและเปิดกว้างในการแสดงความคิดความเห็นของสื่อมวลชนและประชาชนต่อไป

620213-statment-tja_Page_1 620213-statment-tja_Page_2 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว