สภาเกษตรกรเตะเบรกชาวสวนปาล์มคิดให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจขายสมุดเขียวเล่มละ 3 พันบาทให้พ่อค้าเข้าร่วมโครงการปั่นกระแสไฟฟ้าให้ กฟผ. ชี้สร้างปัญหาระยะยาว อย่าคิดสั้น เล็ง 14 ก.พ.จัดคารวานบี 100 บุกกรุงตระเวนพบหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4 กระทรวงหลักกระทุ้งตั้งแต่กฎหมายปาล์ม-หนุนใช้บี 100 เชิญทุกพรรคร่วมเสวนา วัดใจพรรคใดโดนใจพร้อมเทคะแนนให้
นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานคณะกรรมการด้านปาล์มน้ำมันและพืชพลังงาน สภาเกษตรกรแห่งชาติ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะอนุกรรมการบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ “ ว่า จากโครงการจำหน่ายนํ้ามันปาล์มดิบให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามมาตรการปรับสมดุลนํ้ามันปาล์มในประเทศ วงเงิน 2,880 ล้านบาท ปริมาณ 1.6 แสนตัน ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้มีพ่อค้ามารับซื้อสมุดทะเบียนเกษตรกร หรือเรียกว่าสมุดเล่มเขียว จ่ายให้เล่มละ 3,000 บาท โดยเกษตรกรแต่ละรายจะมีโควตาขายไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าไปขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรพื้นที่เท่าไร
ทั้งนี้การคิดคำนวณเกษตรกรแต่ละรายที่จะขายให้ กฟผ. ยกตัวอย่าง 1 ไร่ จะประเมินผลผลิตไร่ละ 3 ตันต่อปี แต่การขายเข้าโครงการจะได้แค่ 1.5 ตัน เพราะโครงการนี้มีกรอบระยะเวลา 6 เดือน คิดคำนวณโควตาการขายของเกษตรกร ยกตัวอย่าง หากเกษตรกรมีทะเบียนอยู่ 15 ไร่ นำ 15x3 เมื่อคิดคำนวณ จะได้ 45 ตัน แล้วนำมาหาร 2 สิทธิที่เกษตรกรจะขายโควตาให้กับ กฝผ.อยู่ที่ 22.5 ตัน เป็นต้น
นายพันศักดิ์ กล่าวว่า การขึ้นทะเบียนเกษตรกรของชาวสวนปาล์มไม่เหมือนข้าว แต่ชาวสวนปาล์มจะต้องดูพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ด้วย แล้วมองว่าการข่วยระยะเวลาแค่ 6 เดือนถูกต้องเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าสมเหตุสมผล แต่ถ้าในกรณีที่คุณมีผลผลิตน้อยมาก ยกตัวอย่าง โควตาขาย 22.5 ตัน ชาวสวนปาล์มไปขายแต่ละครั้งเฉลี่ย 3 ตัน แล้วคุณจะไปเอาผลผลิตปาล์มที่ไหนไปขายก็ได้ แต่ไม่เกิน 22.5 ตัน
ยกตัวอย่างใหม่ หากชาวสวนบางคนมี 100 ไร่ แต่ไปแจ้งแค่ 30 ไร่ ก็จะขายได้แค่ 30 ไร่เท่านั้น เพราะช่วยไม่ได้ ไปหลอกรัฐบาลเองก็ต้องยอมรับความเป็นจริงแต่กำลังมีปัญหาอยู่ว่าจะต้องให้เจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตรยืนยันหรือไม่อย่างไรว่ามีสวนปาล์มจริงหรือไม่ หรือเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน จากที่ผ่านมามีการตรวจสอบเรื่องการจ่ายเงินในโครงการจ่าย 1,500 บาทต่อไร่อยู่แล้ว แต่จะต่างกันกับวิธีการซื้อ กฟผ.ที่จะซื้อตามโควตาของชาวสวนแต่ละรายตามสัญญาที่โรงงานทำกับ กฟผ. โดยจะจ่าย 90% ก่อน ส่วนที่เหลือ 10% จะต้องหาหลักฐานสมุดเล่มเขียวเกษตรกรไปยืนยันในส่วนที่เหลือจะจ่ายให้ตามข้อตกลง กลายเป็นปัญหาของโรงสกัดที่เข้าร่วมโครงการก็กลัวว่าจะไม่มีหลักฐานตัวนี้ไปยืนยัน ในขณะนี้พ่อค้าก็ได้มีการประกาศเขิญชวนให้เกษตรกรขายเล่มทะเบียนเขียวโดยให้ราคาเล่มละ 3,000 บาท
“ในเรื่องดังกล่าวนี้ไม่แน่ใจว่าชาวสวนจะเข้าใจมากน้อยแค่ไหน แล้วหากราคาผลปาล์มไม่ขยับขึ้นเพราะไม่ได้ขายจริงจะไปโทษใครไม่ได้เลย ในขณะนี้ก็พยายามคุยกันทั้งส่วนตัว ผ่านที่ประชุมและกลุ่มแอพพลิเคชั่นไลน์อย่าไปขายทะเบียนเกษตรกร ต้องขายผลปาล์มจริงให้ถูกต้อง ส่วนการตั้งค่าเอฟเอฟเอFree Fatty Acid : FFA หรือค่าความสกปรกและสิ่งเจือปนไว้ที่ 7-9 % จะไปเอื้อกับโรงสกัดที่มีทุนมาก ที่สำคัญตามหลักไม่ควรเกิน 5% จะทำให้การหมุนเวียนและการซื้อขาย สมมติโรงงานขนาดเล็ก ไม่มีเงินมาก จะเก็บไว้ เพื่อขายถูก เพราะเกรงว่าจะมีคนมากดราคา กรดของคุณ 10% พ่อค้าซื้อน้ำมันซีพีโอ จะขายไหมที่ 13บาทต่อกิโลกรัม ส่วนโรงงานใหญ่ ปัจจุบันรับซื้อน้ำมันซีพีโอด้วย แล้วมาซื้อปาล์มเกษตรกรใหม่เข้ามาผสม เพื่อที่จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ ดังนั้นจะช่วยลดต้นทุนให้โรงสกัดเข้าร่วมโครงการ เพราะสิ่งเจือปนให้เกิน 7% ได้ดังนั้นการรับซื้อผลปาล์มที่จะเข้าไปเติมใหม่จะเป็นลักษณะปลาใหญ่กินปลาเล็ก เป็นเรื่องระหว่างโรงงานด้วยกัน
ส่วนเกษตรกรผลกระทบจะมีตามมาก็คือ ไม่จำเป็นต้องเร่งซื้อผลปาล์ม แต่ถ้าเป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกไม่เกิน 5% จะทำให้เกิดการแย่งซื้อผลปาล์มราคาต้องสูงขึ้นแล้ว แต่ปัจจุบันยังต่ำอยู่เลย อีกด้านหนึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงว่า ในโครงการนี้ รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ กิโลกรัมละ 18 บาท เมื่อหักลานเท ไป 20 สตางค์ เกษตรกรชาวสวนปาล์มจะต้องได้ราคารับซื้อไม่ต่ำกว่า 3.04 บาทต่อกิโลกรัม ในราคาเปอร์เซนต์น้ำมันปาล์ม 18% แล้วถ้าเปอร์เซนต์ผลปาล์มสูงกว่า 18% จะได้ราคาขึ้นไป แต่ปัจจุบันเกษตรกรทำไมขายผลปาล์มได้ต่ำอยู่ เป็นข้อสงสัยของชาวสวนปาล์มภาคใต้ ในวันที่ 14 กุมภาพันนี้ ทางสภาเกษตรกรแห่งชาติ จะร่วมกับชาวสวนปาล์ม 14 จังหวัดภาคใต้จัดคาราวานบี 100 ในนาม
"ชมรมคนรักบี 100 ตามรอยพ่อ" พบ 4 กระทรวงที่เกี่ยวข้องตั้งแต่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่ร่างกฎหมายปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ยังไม่ทราบชะตากรรมถึงไหนแล้ว กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ และ กฟผ. จะจัดสัมมนาใหญ่เมืองกรุง แล้วจะเชิญทุกพรรคการเมืองเข้าร่วมงานในครั้งนี้ด้วย หากพรรคใดรับนโยบายไปชาวสวนปาล์มพร้อมเทเคะแนนให้ทันที!