หลังจากครบวาระและส่งไม้ต่อให้ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คนใหม่เรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่จากนี้
"อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก" อดีตประธาน สทท. มีเวลาหันมาทุ่มเทการบริหารธุรกิจรีสอร์ตและธุรกิจเรือท่องเที่ยวที่กระบี่ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งไม่เพียงการปรับโฉมโรงแรม
"อ่าวนาง ปริ้นซ์วิลล์ รีสอร์ท แอนด์ สปา" ใหม่เท่านั้น ยังมีแผนการสร้างโรงแรมใหม่ รวมถึงขยายธุรกิจเรืออย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ อ่านได้จากบทสัมภาษณ์ ...
[caption id="attachment_376274" align="aligncenter" width="224"]
อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก[/caption]
➣ ทัวริสต์กระบี่โต 10%
ภาพรวมการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวกว่า 6 ล้านคน สร้างรายได้ราว 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกว่า 90% เป็นตลาดจากต่างประเทศ ส่วนคนไทยเดินทางมาเที่ยวกระบี่คิดเป็นสัดส่วนอยู่ที่ราว 10% ดังนั้น เราจะเห็นการเติบโตของเที่ยวบินตรงและชาร์เตอร์ไฟลต์ที่เข้ามากระบี่มากขึ้นจากหลากหลายชาติ
ไม่ว่าจะเป็น จากสแกนดิเนเวีย, โดฮา (ตะวันออกกลาง) ประเทศเพื่อนบ้านก็มีอย่าง มาเลเซีย หรือแม้แต่เที่ยวบินเช่าเหมาลำจากจีน ที่อาจจะหายไปบ้างในช่วงก่อนหน้านี้ แต่หลังจากปีใหม่และตรุษจีนที่จะถึงนี้ก็เริ่มกลับมาเป็นปกติอยู่ที่ราว 7-12 เที่ยวบินต่อวัน หลังรัฐบาลมีนโยบายขยายระยะเวลาฟรีค่าธรรมเนียม VISA ON ARRIVAL (VOA) และสนามบินกระบี่ก็กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุงสนามบิน ที่จะแล้วเสร็จในปี 2564 เพื่อขยายการรองรับผู้โดยสารจาก 4 ล้านคนต่อปี เป็น 8 ล้านคนต่อปี
ดังนั้น หลังขยายสนามบินแล้วเสร็จ ก็จะทำให้กระบี่มีสายการบินเข้ามาเปิดบินเพิ่มขึ้น จากลานจอดอากาศยานที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งก็รองรับการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวราว 10% ต่อปี นอกจากนี้ กระบี่ยังมีการพัฒนาการท่องเที่ยวทางเรือ ซึ่งปัจจุบัน มีการให้บริการมารีน่าอยู่ 3 ท่าเรือ คือ กระบี่ ยอชต์ คลับ, พอร์ต ตาโกลา และท่าเรือของเทศกาล และรัฐบาลก็อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างท่าเรือสำราญที่กระบี่ด้วย
➣
ธุรกิจดิ้นหนีเรดโอเชียน
การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว แม้กระบี่จะมีการขยายตัวของนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง แต่ในแง่ธุรกิจก็จะเห็นว่ามีการแข่งขันที่สูงขึ้นตามไปด้วย โดยธุรกิจที่รองรับลูกค้ากลุ่มระดับกลางลงล่าง จะต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงมาก เพราะเป็นการแข่งขันแบบเรดโอเชียน เพราะวันนี้จะเห็นว่า ในกระบี่มีการเปิดโฮสเทลแมนชันต่าง ๆ มากมายเพื่อขายนักท่องเที่ยว ดังนั้น โรงแรมที่ตํ่ากว่าระดับ 3 ดาวลงมา จะเหนื่อยมาก แต่ธุรกิจที่เจาะลูกค้าระดับกลางขึ้นไปจนถึงบนยังอยู่ในระดับบลูโอเชียน ที่ยังมีโอกาสเข้าไปชิงตลาดได้
ปัจจุบัน กระบี่มีโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายอยู่ที่ 25,000 ห้อง จากจำนวนโรงแรมกว่า 500-600 แห่ง ส่วนใหญ่โรงแรมจะมี 3 ระดับ คือ 2 ดาว 3 ดาว และ 4-5 ดาวขึ้นไป โดยโรงแรมที่มีการก่อสร้างใหม่ส่วนใหญ่จะเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวขึ้นไป โดยในปีนี้คาดว่าจะมีโรงแรม 3 ดาว เกิดขึ้นอีกราว 5-6 แห่ง รวมจำนวนห้องพักกว่า 1 พันห้อง และจะเริ่มเห็นการขยายตัวของการใช้เชนโรงแรม ทั้งของไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น ขณะที่ ธุรกิจที่เป็นแบรนด์ท้องถิ่นก็ต้องมีการปรับตัว
➣ โฉมใหม่อ่าวนางปริ้นซ์วิลล์
สำหรับธุรกิจของผมตอนนี้ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง อย่าง โรงแรมหลักของผม คือ อ่าวนาง ปริ้นซ์วิลล์ ที่เปิดให้บริการมากว่า 10 ปี ก็มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ 100% ปิดโรงแรมไปกว่า 6 เดือน ลงทุนไปกว่า 60 ล้านบาท รีแบรนด์เป็น
"อ่าวนาง ปริ้นซ์วิลล์ วิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา" ยกระดับจากบูติก รีสอร์ต ให้เป็นลักชัวรี บูติก รีสอร์ต ปรับให้เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว+ จากจำนวนห้องพักที่เพิ่มจาก 50 ห้องเป็น 59 ห้อง
เนื่องจากเรามีจุดเด่นในเรื่องของโลเกชันที่อยู่ริมหาดและเป็นเซ็นเตอร์ของอ่าวนางอยู่แล้ว แต่ต้องการปรับโฉมให้สอดรับกับเทรนด์ของนักท่องเที่ยว แต่ยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ทางทะเลใต้อยู่ แต่เน้นความสะดวกสบายทันสมัยมากขึ้น และทำให้การดำเนินธุรกิจของเรามีโอกาสในการเข้าไปชิงตลาดได้เพิ่มขึ้น เพราะการแข่งขันในกลุ่มลูกค้าระดับกลางขึ้นบน ยังมีการแข่งขันที่ไม่สูงมากนัก
ทั้งนี้ การปรับปรุงทำไปแล้วกว่า 90% เพิ่งเริ่มทยอยกลับมาเปิดให้บริการบางส่วน ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดสแกนดิเนเวียและยุโรป และยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างพูลวิลล่าและห้องพักแบบดูเพล็กซ์ 2 ชั้น เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ คู่ฮันนีมูน และกลุ่มตลาดครอบครัว ที่มีแนวโน้มการเดินทางเพิ่มขึ้น
➣ ผุดรีสอร์ตใหม่พูลวิลล่า
นอกจากนี้ ผมยังอยู่ระหว่างสร้างโรงแรมใหม่บนพื้นที่ 6 ไร่ โลเกชันแถวหมู่บ้านนาตีน จะสร้างเป็นพูลวิลล่าทั้งหมด 20 หลัง ลงทุนราว 150 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้า ที่จะเป็นอีกสไตล์ของโรงแรมที่เป็นวิวเขา-ทุ่งนา มีจุดขายที่สามารถเชื่อมโยงกับพื้นที่หมู่บ้านนาตีน ซึ่งเป็นหมู่บ้านชุมชนโอท็อป ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน
อีกธุรกิจที่ผมเข้าไปร่วมลงทุน โดยจับกลุ่มกับผู้ประกอบการกว่า 10 โรงแรมในอ่าวนาง มาร่วมกันสร้างธุรกิจร่วมกัน คือ
"อ่าวนาง ทราเวล แอนด์ ทัวร์" ซึ่งเป็นเรือเฟอร์รี่ผู้โดยสารและเรือนำเที่ยวในเส้นทางอันดามัน เชื่อมภูเก็ต เกาะพีพี เกาะลันตา อ่าวนาง และเริ่มไปถึงหลีเป๊ะ ลังกาวี ตอนนี้มีเรือให้บริการอยู่ 12 ลำ เป็นเรือลำใหญ่จุผู้โดยสารได้ราว 250-400 คน จำนวน 6 ลำ ก็ถือว่าไปได้ดี การแข่งขันไม่สูงมาก และก็กำลังต่อเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยปีนี้จะมีลำใหญ่จุได้ 450 คน ลงทุนไปราว 250 ล้านบาท และธุรกิจนี้ก็ต้องถือว่ามีผลประกอบการที่ดีต่อเนื่องเช่นกัน
ทั้งหมดเป็นภาพรวมการท่องเที่ยวกระบี่ การปรับตัว-ยกเครื่องธุรกิจของอดีตประธาน สทท. ที่เกิดขึ้น
| สัมภาษณ์ โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3437 ระหว่างวันที่ 20 - 23 มกราคม 2562