หน้าแรก
หน้าแรก
ธุรกิจ
Play
Loading...
วินชัยลงนามบนใบพัดกังหันลมหลังผุด'ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม'สูงสุดในเอเชียแปซิฟิก
11 ม.ค. 2562 | 10:16 น.
อัปเดตล่าสุด :
11 ม.ค. 2562 | 17:17 น.
วินชัย จัดพิธีลงนามบนใบพัดกังหันลมหลังผุด “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม”โครงการทุ่งกังหันลม จังหวัดมุกดาหาร สร้างพลังงานทดแทนที่ยั่งยืนด้วยกังหันลมที่มีความสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมร่วมมือจังหวัดหนุนพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัด คาดสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนโดยรอบเพิ่มมากขึ้น
บริษัท วินชัย จำกัด ผู้บริหารโครงการทุ่งกังหันลม “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม” อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร จัดพิธีลงนามบนใบพัดกังหันลม โดยได้รับเกียรติจาก พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีฯ พร้อมด้วย นายสุวิทย์ จันทร์หวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร ตัวแทนและหัวหน้าชุมชนรอบรัศมี 3 กิโลเมตร
นายพร้อมพงษ์ ชัยศรีสวัสดิ์สุข ประธานกรรมการ บริษัท วินชัย จำกัด เผยว่า โครงการร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม เป็นโครงการทุ่งกังหันลม มีขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ ใช้กังหันลมของแบรนด์เวสทัส (Vestas) ผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานทดแทน จำนวนทั้งสิ้น 13 ต้น ซึ่งแต่ละต้นมีกำลังการผลิต 3.45 เมกะวัตต์ มีขนาดความสูงของเสาถึง 162 เมตร และมีใบพัดที่มีขนาดความยาว 68 เมตร ถือเป็นกังหันลมที่มีความสูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ถูกออกแบบด้วยเทคโนโลยีทีมีประสิทธิภาพเหมาะสมกับกำลังลมที่ต่ำในประเทศไทย ทั้งนี้โครงการฯ พร้อมที่จะจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ หรือ (COD) ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฝผ.) ในวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่จะถึงนี้
ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ร่วมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ ของชุมชนมาโดยตลอด ตั้งแต่เริ่มพัฒนาโครงการฯ ปัจจุบันโครงการทุ่งกังหันลม “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม” ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 85% จึงได้จัดพิธีลงนามบนใบพัดกังหันลมหมายเลข 8 ของโครงการ “ร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม” พร้อมร่วมมือกับทางจังหวัด พัฒนาโครงการฯให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนโดยรอบเพิ่มมากขึ้น โดยการดำเนินการจะอยู่บนพื้นฐานและข้อกำหนดเรื่องความปลอดภัยตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเป็นสำคัญ ตามที่ภาครัฐกำหนด
ด้าน พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า โครงการดังกล่าว นอกเหนือ จากจะทำให้ประเทศชาติมีความมั่นคงด้านพลังงานแล้ว การพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว จะก่อให้เกิดการพัฒนา สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ให้แก่ประชาชนโดยรอบ ซึ่งจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจของจังหวัดโดยรวม ทำให้ราษฎรและประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จี้ทอท. คุมเข้มความปลอดภัยสุวรรณภูมิ ป้องกันโดรน ชี้โทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต
ทีเส็บ ปั้นกรุงเทพ “Global Design Exhibition Hub” ดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ปั้มรายได้
แลนด์สเคปเปลี่ยน ทุ่ม 1,200 ล้าน ยกเครื่อง ‘เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต’ ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี
โรบินสัน ต่อยอดพื้นที่ศูนย์การค้า ปั้น Outdoor Zone กระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
ส่องผลสำรวจ 55 องค์กรที่คนอยากร่วมงานด้วยปี 69 BJC Big C ผงาดเบอร์ 1