นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ดำเนินการโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 มีแปลงใหญ่ที่ได้รับการส่งเสริมทั้ง 77 จังหวัด จำนวน 4,007 แปลง พื้นที่รวม 4,358,226 ไร่ 86 ชนิดสินค้า เกษตรกรเข้าร่วมโครงการจำนวน 318,453 ราย (ข้อมูล ณ ก.ย. 61) ซึ่งผลการดำเนินงานแต่ละปี เป็นดังนี้
"ปี 2559 แปลงที่ดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน (ระยะเวลา 3 ปี) จำนวน 594 แปลง รวม 33 ชนิดสินค้า พื้นที่ 1,379,357 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 92,338 ราย ปี 2560 มีแปลงการดำเนินการมาจนปัจจุบัน (ระยะเวลา 2 ปี) จำนวน 1,721 แปลง รวม 74 ชนิดสินค้า พื้นที่ 1,770,734 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 139,515 ราย และจะส่งเสริมต่อในปี 2562 ต่อไป เช่นเดียวกับปี 2561 มีแปลงใหญ่เริ่มดำเนินการ 1,692 แปลง จำนวน 86 ชนิดสินค้า พื้นที่ 1,208,135 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ จำนวน 86,600 ราย และจะส่งเสริมต่อเนื่องอีก 2 ปี จนถึงปี 2563"
สศก. ได้ติดตามผลการดำเนินงานโดยลงพื้นที่นำร่อง 2 จังหวัด คือ จ.นครพนม และยโสธร ในแปลงสินค้าข้าว พบว่า จ.นครพนม มีแปลงใหญ่ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559-2561 รวม 54 แปลง โดยแปลงที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 ได้ดำเนินการเฉพาะสินค้าข้าวเพียงชนิดเดียว มีจำนวน 9 แปลง ปัจจุบัน เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 3,002 บาท/ไร่ (ลดลง 664 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 18) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 446 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 47 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 12)
"แปลงที่เริ่มดำเนินการ ปี 2560 มีแปลงใหญ่รวม 6 แปลง เป็นสินค้าข้าว 4 แปลง ปัจจุบัน เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 3,355 บาท/ไร่ (ลดลง 720 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 17) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 470 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 38 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 9) แปลงที่เริ่มดำเนินการ ปี 2561 มีแปลงใหญ่รวม 39 แปลง เป็นสินค้าข้าว 30 แปลง ผลการประเมินพบว่า เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 4,288 บาท/ไร่ (ลดลง 264 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 6) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 441 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 46 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 11)"
ส่วน จ.ยโสธร มีแปลงใหญ่ดำเนินการรวม 52 แปลง โดยแปลงที่เริ่มดำเนินการ ปี 2559 มีจำนวน 15 แปลง เป็นสินค้าข้าว จำนวน 11 แปลง พบว่า เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 3,081 บาท/ไร่ (ลดลง 554 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 15) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 426 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 48 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 13) และแปลงที่เริ่มดำเนินการ ปี 2560 มีจำนวน 26 แปลง เป็นสินค้าข้าว 20 แปลง เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 3,142 บาท/ไร่ (ลดลง 394 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 11) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 428 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 40 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 10) เช่นเดียวกับแปลงที่เริ่มดำเนินการ ปี 2561 มีจำนวน 11 แปลง เป็นสินค้าข้าว 7 แปลง เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิตข้าวลงเหลือ 2,922 บาท/ไร่ (ลดลง 233 บาท/ไร่ หรือร้อยละ 7) และผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นเป็น 423 กิโลกรัม/ไร่ (เพิ่มขึ้น 32 กิโลกรัม/ไร่ หรือร้อยละ 8)
ผลจากการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งแต่ปี 2559-2561 จะเห็นได้ว่าการส่งเสริมการเกษตรในรูปแบบแปลงใหญ่ส่งผลให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตอย่างต่อเนื่องได้จริง ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยศูนย์ประเมินผลและสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 มีกำหนดแผนที่จะเตรียมลงพื้นที่ประเมินผลแปลงใหญ่ทั่วทั้งประเทศอีกครั้ง ในเดือน ม.ค. - ก.พ. 2562 ซึ่งจะดำเนินครอบคลุมทั้ง 86 ชนิดสินค้า ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะนำเสนอผลการประเมินในภาพรวมให้ทราบในโอกาสต่อไป