บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
ลุ้นที่ราคาอาจไปทดสอบแนวต้านโซนที่ 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคายืนไม่ได้อาจเกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมา เมื่อราคาทองคำอ่อนตัวลงจะมีแนวรับบริเวณ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หากราคาทองคำปรับตัวลงมาพอเข้าใกล้โซนแนวรับ 1,212-1,209 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจมีแรงดีดกลับสั้นๆ เบื้องต้นอาจต้องระวังแรงขายกลับลงมาอีกครั้งหากราคายังไม่มีแรงซื้อมากพอ หรือ ไม่มีปัจจัยใหม่มาดันราคาขึ้น แต่หากมีแรงซื้อมากพอจนราคาผ่านแนวต้าน 1,231-1,237 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ 1,244 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,209 1,196 1,187
แนวต้าน 1,237 1,244 1,256
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน, ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายที่อ่อนแอเกินคาด โดยเฉพาะดัชนี Core PCE ที่ปรับขึ้นเพียง 0.1% หลังปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก.ย.บ่งชี้ถึงเงินเฟ้อของสหรัฐที่ชะลอตัวลง ขณะที่วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า สหรัฐและจีนกำลังมองหาช่องทางทำข้อตกลงการค้าที่จะทำให้สหรัฐไม่เรียกเก็บภาษีครั้งใหม่ต่อจีนเพื่อแลกกับการเจรจาครั้งใหม่กับจีนเพื่อให้จีนมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งความหวังเชิงบวกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าระหว่าง 2 ประเทศได้ชะลอความต้องการดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัยซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนราคาทองคำในระหว่างวัน อย่างไรก็ดีรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ประจำวันที่ 7-8 พ.ย. ที่ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดเกือบทั้งหมดในการประชุมครั้งที่ผ่านมาเห็นพ้องต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้ซึ่งช่วยหนุนให้ดอลลาร์ฟื้นตัวขึ้นได้บ้างและลดช่วงบวกของราคาทองคำ สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI เขตชิคาโก และจับตาเป็นพิเศษสำหรับผลการเจรจาการค้าระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นอกรอบการประชุม G20 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวผันผวนในช่วงเปิดตลาดของเช้าวันจันทร์ได้
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด