ทัพสินค้าไทยปูพรม ยึด FMCG เวียดนาม

04 ธ.ค. 2561 | 09:26 น.
ตลาด FMCG เวียดนามเนื้อหอมเติบโตเกือบ 4% ปลุกนักธุรกิจท้องถิ่น-ต่างชาติแห่ลงทุนเพิ่ม TCP สบช่องวางรากฐานธุรกิจยาวนานกว่า 30 ปี เร่งเครื่องบุกหวังครองแชร์ตลาดชูกำลัง 2.5 หมื่นล้านยาว

88681

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ ซันสแนค และวอริเออร์ เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค (FMCG) ของเวียดนามถือว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดีต่อเนื่องที่ 3.8% ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มมีมูลค่า 1 แสนล้านบาท โดยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังมีมูลค่ากว่า 2.5 หมื่นล้านบาท หรือมีสัดส่วน 37.3% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค และมีการเติบโตที่ 5.1% ซึ่งถือว่าเป็นตลาดมีการเติบโตสูง และมีมูลค่าเป็นรองเพียงแค่ตลาดนํ้าอัดลมเท่านั้น ซึ่งโจทย์หลักในการทำตลาดเวียดนามของ TCP นับจากนี้คือเรื่องของการสร้างความเข้าใจให้ผู้บริโภค ที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผ่านการทำกิจกรรมทางการตลาดรูปแบบต่างๆ ทั้ง โซเชียล มีเดียและช่องทางต่างๆ และจะต้องมีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆเข้าสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งโดยส่วนตัวมองว่าการขายสินค้าเดิมๆ หรือการอยู่กับแบรนด์เดิมๆที่มีอยู่ เท่ากับเป็นการจำกัดการเติบโตของบริษัท

88684

สำหรับแผนการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการดำเนินงานตามแผนธุรกิจของกลุ่มที่ต้องการให้ธุรกิจโตขึ้น 3 เท่า มียอดขายแสนล้านบาทภายใน 5 ปี (2560-2564) พร้อมกับวางเป้าหมายในการเปิดสำนักงาน หรือโรงงานในต่างประเทศอย่างน้อย 1 แห่งต่อปี เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็น House of Brand หรือองค์กรที่มีหลายแบรนด์สินค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม

88685

ทั้งนี้ล่าสุดได้ใช้เงินลงทุนในประเทศเวียดนามช่วง 3 ปีนับจากนี้ (2562-2564) ที่ 4,000 ล้านบาท ทั้งในส่วนของการเปิดออฟฟิศหรือโรงงาน 1 แห่ง นอกจากนี้ยังมีแผนทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง หลังจากช่วง 5 ปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ “วอริเออร์” ออกมาเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยปัจจุบันวอริเออร์ครองส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 5% ติดท็อป 5 ในตลาดเครื่องดื่มชูกำลังได้ ขณะที่กระทิงแดงมีส่วนแบ่งตลาด 40% เป็นเบอร์ 1 ของตลาด เป้าหมายต้อง การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 50%

88686

“เรามีแผนขยายแผนงานในเอเชียอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของทางกลุ่มที่วางไว้ โดยในส่วนของประเทศจีนในปัจจุบันไลเซนส์ได้จบตามสัญญา 20 ปีแล้ว ซึ่งเบื้องต้นกำลังหาพันธมิตรที่จะไปเริ่มต้นใหม่ โดยปัจจุบันบริษัท
มีส่วนแบ่งเป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว”

88687

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,422 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -1 ธันวาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว