นายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. กล่าวว่า หลังจากสนามบินดอนเมือง เปิดให้บริการอาคารผู้โดยสาร อาคาร 2 สำหรับรองรับผู้โดยสารและเที่ยวบินในประเทศ อย่างเป็นทางการในวันที่ 8 มีนาคม 2559 ทางสนามบินดอนเมืองจะดำเนินการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อให้มีประสิทธิภาพและมีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นอาคารเก่าโดยเฉพาะระบบแอร์ ใช้งานนานกว่า 30 ปี ซึ่งจะทยอยปิดเป็นส่วนๆ เพื่อปรับปรุงระบบไฟฟ้า แสงสว่าง เคาน์เตอร์เช็คอิน โดยปรับให้เป็นระบบ In-Line screening
[caption id="attachment_35400" align="aligncenter" width="500"]
สนามบินดอนเมือง[/caption]
ทั้งจะดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมืองระยะ 3 ได้แก่ การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารภายในประเทศหลังเดิม ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เปิดใช้งาน การทุบอาคารเก่าที่ไม่ได้ใช้งาน เพื่อนำมาใช้สำหรับพื้นที่จอดรถ การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ (Junction Terminal) โดยจะมีการก่อสร้างทางเชื่อมระหว่างตัวอาคารกับสถานีรถไฟฟ้าดอนเมืองที่จะเป็นสถานีร่วมของรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางบางซื่อ– รังสิต และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ สายพญาไท–ดอนเมือง และการสร้างอาคารจอดรถเพื่อรองรับรถยนต์ได้อีกกว่า 3 พันคัน ซึ่งทอท.คาดว่าเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินดอนเมืองจาก 30 ล้านคนต่อปี เป็น 40 ล้านคนต่อปี
[caption id="attachment_35398" align="aligncenter" width="500"]
นิตินัย ศิริสมรรถการ
ผู้อำนวยการใหญ่
บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)[/caption]
“ การขยายเฟส 3 สนามบินดอนเมือง อยู่ในแผนแม่บทการพัฒนาสนามบินดอนเมือง ซึ่งทอท.จะนำเสนอบอร์ดให้พิจารณาในวันที่ 23 มีนาคมนี้ เบื้องต้นประเมินงบลงทุนหลักหมื่นล้านบาท” นายนิตินัย กล่าวทิ้งท้าย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,136 วันที่ 3 - 5 มีนาคม พ.ศ. 2559