ค้าชายแดน-ผ่านแดน 9 เดือนโต 1.04 ล้านล้าน! ห่วง 'จ๊าด' ร่วง - ส่งออกยางวูบ ฉุดโค้งสุดท้าย

25 ต.ค. 2561 | 11:19 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ต.ค. 2561 | 09:11 น.
พาณิชย์ เผย การค้าชายแดนและผ่านแดน 9 เดือน ปี 2561 โตต่อเนื่องกว่า 1.04 ล้านล้านบาท ภาพรวมไทยยังเกินดุลการค้า 1.3 แสนล้าน มาเลเซียยังคงนำโด่งยอดการค้าชายแดนสูงสุด ส่วนการค้าผ่านแดนจีนตอนใต้ยังครองแชมป์ ชี้อนาคตค้าผ่านแดนสดใส ขยายตัวสูงกว่าค้าชายแดนมาก

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดี กรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนของไทย 9 เดือนแรกของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย) ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีมูลค่า 1,036,864 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 6.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยเป็นการส่งออก 584,791 ล้านบาท (ลดลง 0.29%) และการนำเข้า 452,073 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.80%) ไทยเกินดุลการค้า 132,718 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 834,354 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.13%) เป็นการส่งออก 485,977 ล้านบาท (ลดลง 0.77%) นำเข้า 348,377 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11.83%) เกินดุลการค้า 137,599 ล้านบาท และมูลค่าการค้าผ่านแดน 202,510 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 15.33%) เป็นการส่งออก 98,814 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2.16%) นำเข้า 103,696 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 31.49%) ขาดดุลการค้า 4,882 ล้านบาท

 

[caption id="attachment_337796" align="aligncenter" width="503"] อดุลย์ โชตินิสากรณ์ อดุลย์ โชตินิสากรณ์[/caption]

สถิติการค้าชายแดนแยกเป็นรายประเทศ พบว่า การค้ากับมาเลเซียยังคงนำเป็นอันดับหนึ่ง มูลค่า 426,193 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1.36%) เป็นการส่งออก 221,410 ล้านบาท (ลดลง 6.65%) นำเข้า 204,783 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 11.72%) ตามมาด้วย สปป.ลาว มูลค่า 158,730 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.01%) เป็นการส่งออก 96,847 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 0.63%) นำเข้า 61,883 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 12.67%) เมียนมา มูลค่า 143,884 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.94%) เป็นการส่งออก 79,807 ล้านบาท (ลดลง 3.39%) นำเข้ามูลค่า 64,078 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17.58%) และกัมพูชา มูลค่า 105,547 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 14.08%) เป็นการส่งออก 87,913 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19.26%) นำเข้า 17,634 ล้านบาท (ลดลง 6.20%)


ตารางค้าชายแดน

นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า ปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนในช่วงระยะนี้ คือ การที่ประเทศเมียนมากำลังประสบกับปัญหาอุทกภัย จึงทำให้เส้นทางคมนาคมขนส่งไม่สะดวก ประกอบกับกับค่าเงินจ๊าดอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้การค้าชะลอตัวลง หากปัจจัยดังกล่าวดีขึ้น คาดว่าจะทำให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เพื่อใช้ในการซ่อมแซม/ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนการส่งออกสินค้าทางด้านมาเลเซีย ยังชะลอตัวลงจากปริมาณการส่งออกยางพารา/ผลิตภัณฑ์ยางที่ลดลง รวมถึงสินค้าเกษตรอื่นของภาคใต้ คือ ปาล์มน้ำมันและมะพร้าว นอกจากนี้ จังหวัดภาคใต้ เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยังได้รับผลกระทบจากการลดลงของนักท่องเที่ยวจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพรวมการค้าชายแดนไทย ในขณะที่ ด้านกัมพูชา เดือน ก.ย. ไปได้ดี มีการส่งออกขยายตัวมากถึง 34% เนื่องจากการส่งออกสินค้ากลุ่มเครื่องดื่มฯ


แผนค้าชายแดนปี62

สำหรับปี 2562 กรมฯ ยังมุ่งมั่นเดินหน้าจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เช่น (1) โครงการ YEN-D ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ซึ่งจะขยายจากเดิมที่สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย โดยจับคู่ระหว่างไทยกับ CLMV เป็น YEN-D Plus ขยายไปสู่อินโดนีเซียและมาเลเซีย รวมทั้งจะเพิ่มการสร้างเครือข่ายภายใต้ระเบียงเศรษฐกิจ LIMEC (หลวงพระบาง–อินโดจีน-เมาะลำไย) เพื่อเชื่อมโยงจังหวัดภาคเหนือตอนล่างของไทย ที่ประกอบด้วย อุตรดิตถ์ ตาก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และพิษณุโลก กับแขวงไซยะบุรี และแขวงหลวงพระบาง ของ สปป.ลาว รัฐกระเหรี่ยงและรัฐมอญของเมียนมา (2) งานมหกรรมการค้าชายแดน 4 ภูมิภาค โดยเริ่มที่ จ.สระแก้ว ช่วงปลายปี ต่อด้วย จ.เชียงราย นราธิวาส และมุกดาหาร ซึ่งจะเน้นให้นำสินค้าต่างภาคมาออกร้าน เช่น งานมหกรรมที่ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็น 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่รัฐบาลต้องการเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่ กรมฯ จะนำสินค้าจากภาคเหนือลงสู่ใต้ ในขณะที่ งานมหกรรมการค้าที่ จ.เชียงราย จะนำสินค้าจากใต้ขึ้นเหนือ เป็นต้น โดยกรมฯ หวังว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถขับเคลื่อนการค้าชายแดนปี 2562 ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

e-book-1-503x62-7