'มานา' รุกสกินแคร์! ปูพรมอี-คอมเมิร์ซจีน

14 ต.ค. 2561 | 03:56 น.
'มานา' ปรับแผนรุกเทรนด์ตลาดสกินแคร์เมืองไทย ทุ่ม 100 ล้านบาท เดินเครื่องรุกตลาดเต็มสูบ ดึง "โป๊ป-ธนวรรธน์, บี-นํ้าทิพย์" พรีเซนเตอร์หลักดึงยอดขาย พร้อมทุ่มอีกกว่า 100 ล้านบาท สยายปีกบุกจีน ชูออนไลน์ คีย์ซักเซสสำคัญขยายตลาด วางเป้า 3-5 ปี โกยรายได้ 3,000-5,000 ล้านบาท พร้อมกรุยทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ

นางสาวศิริรัตน์ กิจพ่อค้า ประธานกรรมการ บริษัท มานา เนเจอร์อินโนเวชั่นฯ ผู้ดำเนินธุรกิจด้านความงามภายใต้แบรนด์ "มานา" เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของบริษัทนับจากนี้จะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยจะโฟกัสตลาดประเทศจีน ผ่านตัวแทนจำหน่ายในเซี่ยงไฮ้และกวางโจว ควบคู่กับการสื่อสารแบรนด์ผ่านช่องทางออนไลน์อี-คอมเมิร์ซหลักในจีน ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรม Wechat, Weibo เป็นต้น โดยคาดการณ์ว่าน่าจะใช้งบประมาณทางการตลาดเฉพาะในส่วนของประเทศจีนมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งมองว่า หากบริษัทสามารถนำสินค้าเข้าไปทำตลาดได้สำเร็จภายในปี 2562 คาดว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

 

[caption id="attachment_332067" align="aligncenter" width="316"] ศิริรัตน์ กิจพ่อค้า ศิริรัตน์ กิจพ่อค้า[/caption]

"หลังจากช่วงที่ผ่านมา บริษัทได้มีการขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย เมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ผ่านตัวแทนจำหน่าย ซึ่งได้ผลการตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ ปัจจัยหลักที่บริษัทโฟกัสการทำตลาดเข้าไปในจีน เนื่องมาจากเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก มีศักยภาพทางการเติบโตสูง ซึ่งหากสามารถนำสินค้าเข้าไปทำตลาดในประเทศจีนได้สำเร็จ คาดว่าจะสามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 40-50% จากปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนรายได้ที่มาจากการทำตลาดต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 20-30%"


S__38477974

ขณะที่ การทำตลาดในประเทศจะยังคงให้ความสำคัญกับการขยายตัวแทนจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันบริษัทมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าที่ขายผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่ประมาณ 4 หมื่นคน โดยจะเน้นช่องทางจำหน่ายบริษัทออนไลน์เป็นหลัก เนื่องจากช่องทางดังกล่าวยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก ซึ่งผู้ที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่าย บริษัทจะมีการฝึกอบรมการขายออนไลน์ให้ เพื่อให้ตัวแทนมีความรู้การขายสินค้าออนไลน์อย่างจริงจัง ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น โดยในส่วนของไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะทำการเปิดตัวสินค้าใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มอีก 1 รายการ จากปัจจุบันมี 7 รายการ ขณะที่ ในปีหน้ามีแผนจะแตกไลน์สินค้าในกลุ่มใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร


S__38477984

"ก่อนหน้านี้ เรามีการวางจำหน่ายสินค้าในช่องทางร้านค้าความงาม แต่ทว่าช่วงที่ผ่านมา ได้มีการปรับแผนใหม่ด้วยการถอดสินค้าออกจากช่องทางดังกล่าว เนื่องจากต้องการโฟกัสการทำตลาดไปที่ช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ขณะเดียวกัน บริษัทไม่อยากเป็นคู่แข่งกับตัวแทนจำหน่าย และต้องการให้ตัวแทนจำหน่ายทุกคนมีการเติบโต"


S__38477982

พร้อมกันนี้ ยังได้มีการใช้งบ 100 ล้านบาท โฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้าและทำกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ดึง "บี-นํ้าทิพย์" มาเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าแคปซูล เซรั่ม ข้าวสาเก หลังจากก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จมาก แล้ว "โป๊ป-ธนวรรธน์" กับการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าครีมกันแดดข้าวสาเก อย่างไรก็ตาม หลังจากเดินหน้าขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง บริษัทคาดการณ์ว่า ในสิ้นปีนี้จะปิดรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท และในอีก 3-5 ปีนับจากนี้ คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มเป็น 3,000-5,000 ล้านบาท พร้อมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป


หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,409 ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2561

595959859