บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เข้าซื้อหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,214-1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ และทยอยปิดสถานะทำกำไรบางส่วนหากไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,227-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์
หลังจากราคาทองคำเกิดแรงซื้อดันจนราคาทะยานขึ้น หากการอ่อนตัวลงระหว่างวันค่อนข้างจำกัดจะแสดงถึงแรงเข้าซื้อในระยะสั้นที่ยังคงแข็งแกร่งซึ่งจะส่งผลให้แนวโน้มราคาทองคำเป็นบวกมากขึ้น ทั้งนี้ ทำให้ประเมินแนวรับระยะสั้นนั้นอยู่ในบริเวณ 1,214-1,208 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาไม่หลุดยังคงมีโอกาสที่ราคาจะทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,227-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,214 1,208 1,197
แนวต้าน 1,227 1,235 1,246
สรุป ราคาทองคำวานนี้ทะยานขึ้น 29.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจาก 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ (1)การอ่อนค่าของของดัชนีดอลลาร์จากการขยับลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ และการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอเกินคาด ทั้งดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ปรับตัวขึ้นน้อยกว่าคาดเพียง 0.1% ในเดือนก.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 214,000 ราย อีกปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอีกครั้ง คือ (2)การร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งในฝากฝั่งของตลาดเอเชียและยุโรป ขณะที่วานนี้ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงต่ออีก -2.13%, ดัชนีS&P 500 ร่วงลง -2.06%และดัชนี Nasdaq ร่วงลง -1.25% จากความวิตกของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและสงครามการค้าที่อาจกระทบผลประกอบการบริษัทต่างๆแม้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะขยับลงก็ตาม ทำให้ดัชนี CBOE Volatility พุ่งขึ้นสู่ 24.98 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. สถานการณ์เหล่านี้หนุนให้ทองคำพุ่งขึ้นทะลุกรอบการเคลื่อนไหวเดิมจนกระตุ้นแรงซื้อตามและทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นถึง +2.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2016 สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยคาดการณ์ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ จาก UoM
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด