บลจ.ไทยพาณิชย์ มองหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ทั่วโลกน่าสนใจ

26 ก.ย. 2561 | 09:15 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บลจ.ไทยพาณิชย์ มองหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ น่าลงทุนระยะยาว หลังความกังวลราคายาในสหรัฐฯคลี่คลาย  ชูกองทุนเฮลท์แคร์ “SCBGHC-SCBRMGHC”ผลงานเด่น

นายณรงค์ศักดิ์  ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว เนื่องจากสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนที่มีความผันผวนสูง โดยบริษัทได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ 2 กองทุนคือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ (SCB GLOBAL HEALTHCARE EQUITY FUND : SCBGHC) ซึ่งผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีถึง 19 กันยายน อยู่ที่ 14.12% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 12.79% และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลบอลเฮลธ์แคร์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCB GLOBAL HEALTHCARE RMF: SCBRMGHC) มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 13.64% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 12.35%  ซึ่งดีกว่าเกณฑ์มาตรฐานของทั้ง 2 กองทุนที่มีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 11.21% และย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 11.99%

คุณณรงค์ศักดิ์

นายณรงค์ศักดิ์กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ และบริการด้านสาธารณสุข รวมถึงธุรกิจเทคโนโลยีชีวภาพได้รับประโยชน์จากมูลค่าพื้นฐานที่ปรับตัวลดลง และความกังวลด้านราคายาในสหรัฐฯ ที่เริ่มคลี่คลาย เช่นเดียวกับการปรับตัวดีขึ้นในดัชนี MSCI World Health Care ซึ่งถือเป็นดัชนีอ้างอิงของกองทุน ส่งผลให้กองทุนเฮลธ์แคร์ทั้ง 2 กองทุนมีผลดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 25 กันยายน ได้จ่ายปันผลกองทุน SCBGHC สำหรับผลการดำเนินงานระหว่าง 1 กันยายน 2560 –  31 สิงหาคม 2561 ในอัตราหน่วยละ 0.2096 บาท

สำหรับกองทุน SCBGHC และ กองทุน SCBRMGHC มีนโยบายเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Janus Global Life Sciences Fund (กองทุนหลัก) เป็นกองทุนที่มีการบริหารเชิงรุก โดย Janus Capital Management LLC จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศไอร์แลนด์และอยู่ภายใต้ UCITS ลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เน้นลงทุนในหุ้นของบริษัททั่วโลกที่มีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต (Life Sciences) ได้แก่ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการวิจัย พัฒนา ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตัวเอง การแพทย์หรือเภสัชกรรม รวมไปถึงบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตหลักมาจากผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี การจดสิทธิบัตร หรือตลาดอื่นใดที่ได้รับประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต

090861-1927-9-335x503

“ที่ผ่านมาหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ได้รับแรงกดดันมาโดยตลอดจากแผนการกำหนดเพดานราคายา ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในช่วงกลางปี 2018 ได้มีการเปิดเผยรายละเอียดของแผนการนี้ซึ่งไม่ได้แย่อย่างที่ตลาดคาดไว้ จึงทำให้ตลาดผ่อนคลายความกังวลนี้ลงไปบ้าง อย่างไรก็ตามปัจจัยกดดันดังกล่าวยังคงจะไม่มีความชัดเจนในเวลาอันใกล้และสร้างความผันผวนให้กับราคาหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยเฉพาะกลุ่ม pharmaceuticals และ biotech ไปจนถึงอย่างน้อยในช่วงเลือกตั้งกลางสมัย (midterm elections) ที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีนี้”

อย่างไรก็ตาม บลจ.ไทยพาณิชย์ มองว่าหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ทั่วโลกยังเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจลงทุนในระยะยาว เนื่องจากสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุทั่วโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดูแลด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ข้อมูลองค์การอนามัยโลกระบุว่า สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีนั้น มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 5% ในปี 1950 เป็น 17% ในปี 2050 ซึ่งกลุ่มดังกล่าวเป็นผู้ที่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสูงกว่ากลุ่มอื่นกว่า 3 เท่า ขณะที่นวัตกรรมทางการแพทย์และความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทมียอดขายและบริการทางการแพทย์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว