หนึ่งในกระแสฮอตฮิตที่ถูกกล่าวถึงกันมากในแวดวงโซเชียลเมืองลพบุรี คือ รถโดยสารสองแถวติดแอร์ ฟรีไว-ไฟ มีกล้องวงจรปิด ติดตั้งจีพีเอสควบคุมความเร็ว ทั้งหมดนี้ผู้โดยสารจ่ายเพียง 10 บาทตลอดสาย จนทำให้โลกโซเชียลต่างมีการพูดถึงรถโดยสารสาธารณะของจังหวัดลพบุรี ที่มีการบริการสุดคูลและไฮเทค จนมีหลายๆจังหวัดอยากให้มีการพัฒนารถสองแถวในลักษณะนี้บ้าง “ฐานเศรษฐกิจ” ได้สัมภาษณ์ นายสรชัช คงเดช กรรมการผู้จัดการขนส่งมวลชนลพบุรี ถึงที่มาของรถโดยสารสองแถวติดแอร์สุดลํ้า
ตอบโจทย์คนใช้บริการ
นายสรชัช กล่าวถึงที่มาของการเริ่มต้นเดินรถโดยสารสองแถวปรับอากาศว่า ผมมองเห็นว่ารถโดยสารในจังหวัดลพบุรี ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ค่อยได้มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จึงคิดว่าถ้าเรามาดำเนินธุรกิจเดินรถโดยสาร และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรถโดยสารสาธารณะให้ตอบสนองตรงกับความต้องการและตอบโจทย์ของผู้โดยสารได้ ก็น่าจะเป็นทางเลือกหนึ่ง ประกอบกับสังเกตเห็นประชากรเมืองหลวง ก็นิยมใช้รถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นจำนวนมาก แม้ว่าราคาค่าโดยสารจะสูงกว่ารถเมล์ก็ตาม รวมทั้งทำไมคนส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้าง เหตุผลเพราะต้องการความสะดวก สบายรวดเร็ว ดังนั้นราคาค่าโดยสาร จึงไม่ใช่ปัจจัยหลักในการเลือกพาหนะในการเดินทาง จึงได้ดำเนินธุรกิจรถตู้โดยสารวิ่งระหว่างกรุงเทพฯ-อ.บ้านหมี่ และสายลพบุรี-สระบุรีขึ้นมา ซึ่งปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากผู้โดยสารเป็นอย่างดี
จากนั้นในเดือนพฤศจิกายน 2560 จึงได้เปิดเส้นทางรถโดยสารสาธารณะรอบเมือง เป็นรถขนส่งมวลชนสาย 19 อีกเส้นทางในระยะทาง 18 กิโลเมตร ที่เชื่อมต่อการโดยสารกับรถตู้โดยสาร 2 สายดังกล่าว และสามารถตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารได้ รวมทั้งเห็นว่าลพบุรีเป็นเมืองที่มีสภาพอากาศร้อน ผู้โดยสารที่เดินทางส่วนใหญ่จะแต่งตัวดีทั้งคนวัยทำงานและนักเรียนนักศึกษา หากเป็นรถสองแถว ก็ไม่แตกต่างจากรถโดยสารเดิมที่วิ่งกันอยู่ แต่ถ้าเป็นรถเมล์จะประสบปัญหาความเสี่ยงในจุดไม่คุ้มทุนในช่วงเวลาไม่เร่งด่วน ดังนั้นจึงได้มีแนวคิดใช้รถสองแถวมาเปิดให้บริการ แต่ปรับพื้นที่ผู้โดยสารมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้มีความสะดวกสบายไม่ร้อน มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย และลดเหตุอาชญากรรมบนรถ ตลอดจนมีระบบติดตามด้วยจีพีเอส ควบคุมความเร็วไม่เกิน 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งมีไว-ไฟฟรีให้กับผู้โดยสาร
อีกทั้งเราเป็นผู้ประกอบการรายเดียว ก็สามารถที่จะบริหารจัดการในการเดินรถได้ง่าย ทั้งคุณภาพของรถ คุณภาพการบริการผู้โดยสาร และมาตรฐานการขับขี่ของพนักงานเอง เพราะสามารถจัดการรถให้สมดุลไม่มีปริมาณมากเกินไป ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 14 คัน รถออกทุก 10 นาที โดยมีต้นทางที่ โรงเรียนวินิตศึกษา ข้างพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และหมู่บ้านสวัสดิการกองพลรบพิเศษที่ 1 ต.นิคมสร้าง ตนเอง อ.เมืองลพบุรี ผ่านตลาดเทศบาล วิ่ง ตามถนนนารายณ์มหาราช วงเวียนสระแก้ว วงเวียนสมเด็จพระนารายณ์ โรงพยาบาล โรง เรียน ห้างสรรพสินค้า โรงงานอุตสาหกรรม แต่ราคาโดยสารเพียงแค่ 10 บาทเท่านั้น
ตั้งแต่เปิดให้บริการมา ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้โดยสารทุกวัยตลอดเส้นทาง ทั้งแม่บ้าน คนทำงาน และนักเรียนนักศึกษา เนื่องจากสะดวก ปลอดภัย ผู้โดยสารมั่นใจว่ารถมาตรงเวลา ไม่ต้องนั่งร้อน ผมเผ้าไม่ยุ่ง และเมื่อเข้าไปในเมือง ไม่ต้องยุ่งยากกับการหาที่จอดรถส่วนตัว และยังสามารถใช้ไว-ไฟตลอดเส้นทาง รวมทั้งบางช่วงเรายังได้มีการจัดแคมเปญพิเศษ เช่น การชมภาพยนตร์ รถสองแถวของขนส่งมวลชนลพบุรี จึงเป็นทางเลือกใหม่และยังเป็นการยกระดับรถโดยสารสาธารณะของจังหวัดลพบุรีอีกด้วย
“กว่ารถสองแถวจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากในการวางโครงสร้างของห้องโดยสารและติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เป็นการออก แบบเอง แรกๆ จึงมีปัญหาเรื่องของความเย็นที่ไม่ทั่วถึง ผู้โดยสารร้อน จึงมีการปรับปรุงในเรื่องความเย็นภายในห้องโดยสาร 3-4 ครั้งจนลงตัว จนผู้โดยสารพอใจ”
เล็งเปิดมินิบัสรับรางคู่
นายสรชัช กล่าวถึงแผนดำเนินธุรกิจในอนาคตอีกว่า “อนาคตเมื่อโครงการระบบรถไฟทางคู่ สายภาคเหนือดำเนินการเสร็จ ผมเองเตรียมเปิดเส้นทางรถโดยสารสาธารณะแบบมินิบัสขนาด 19 ที่นั่งอีก 1 เส้นทาง เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน เนื่องจากระยะเส้นทางเดินรถจะไกลกว่าเดิม หากใช้รถสองแถวแบบรอบเมืองจะไม่สะดวกนัก ซึ่งมั่นใจว่าผู้โดยสารจะให้การตอบรับดีเหมือนรถสองแถว นอกจากนี้ผมยังสนใจในการเป็นขนส่งมวลชนอัจฉริยะพลังงานสีเขียว ในการใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เพราะนอกจากจะประหยัดนํ้ามันเชื้อเพลิงแล้ว ยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้มาก รวมทั้งเทคโนโลยีไร้คนขับ ที่อาจมีในอนาคต เพราะในฐานะผู้ประกอบการมองว่าคุ้มค่าต่อการลงทุน เนื่องจากปัจจุบันปริมาณรถสาธารณะมีมากขึ้น แต่ในบ้านเราพนักงานขับรถที่มีความชำนาญและมีประสบการณ์กลับขาดแคลนมาก ดังนั้นเทคโนโลยีไร้คนขับจะสามารถช่วยผู้ประกอบการได้” ผู้บริหารขนส่งมวลชนลพบุรีกล่าวทิ้งท้ายในการสัมภาษณ์
หน้า 21 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,400 วันที่ 13-15 กันยายน 2561