กูรูขายตรงแนะทางรอดธุรกิจ เน้นขยันเร่งพัฒนาความรู้และปรับกลยุทธ์การทำงาน

15 ก.พ. 2559 | 10:00 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2559 | 14:47 น.
ผู้ประกอบการธุรกิจขายตรง แนะวิธีฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ สร้างการเติบโต หลังกำลังซื้อฝืด การแข่งขันสูงกับธุรกิจออนไลน์และค้าปลีก รวมถึงการแพร่ระบาดของแชร์ลูกโซ่ ส.ขายตรงไทย เน้นความขยันและปรับกลยุทธ์การทำงาน ด้านผู้บริหารซัคเซสมอร์ แนะเร่งพัฒนาความรู้ความสามารถ ทั้งผู้ประกอบการและนักธุรกิจ ขณะที่ส.อุตสาหกรรมขายตรงไทย ชี้ต้องสร้างสังคมขายตรงให้น่าอยู่

นายพงศ์พสุ อุณาพรหม ผู้แทนอุปนายกฝ่ายรัฐสัมพันธ์ สมาคมการขายตรงไทย และผู้อำนวยการใหญ่สายงานการตลาด บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจขายตรงในปี 2559 ยังต้องเผชิญกับปัญหาเงินฝืด จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลให้การซื้อสินค้าในธุรกิจขายตรงชะลอตัวลงตาม ซึ่งแนวทางการรับมือกับภาวะดังกล่าว ผู้ประกอบการจะต้องปรับกลยุทธ์การทำงานให้สอดคล้องกับการซื้อสินค้าของผู้บริโภค สังเกตพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคมากขึ้น ขณะที่นักธุรกิจอิสระจะต้องขยันทำงานเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ธุรกิจออนไลน์จะเข้ามามีบทบาทต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเช่นกัน และอาจจะดึงส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจขายตรงด้วย โดยนักธุรกิจอิสระต้องศึกษารูปแบบการทำตลาดออนไลน์ นอกจากนี้ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปีนี้ ถือเป็นโอกาสให้กับธุรกิจขายตรงที่จะออกไปทำตลาดหรือขยายธุรกิจ แต่ในขณะเดียวกันบริษัทต่างชาติก็มีโอกาสเข้ามาทำตลาดในประเทศด้วยเช่นกัน ทำให้ประเมินว่าภาพรวมของธุรกิจขายตรงในปีนี้ มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปีที่ผ่านมาที่เติบโต 3-5% หรือมีมูลค่าประมาณ 7.3-7.5 หมื่นล้านบาท

"ปีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ประเทศไทยเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เมื่อเกิดวิกฤตแล้ว ผู้ประกอบการและนักธุรกิจอิสระต้องปรับตัว ซึ่งไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ธุรกิจขายตรงยังเนื้อหอม เพราะมีผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาเปิดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจขายตรงยังเป็นทางออกที่ต้องการมีรายได้ สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ การบริหารต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายให้รัดกุม เพราะการทำการตลาดจะลำบาก และต้องวิเคราะห์ตลาดให้ดี เนื่องจากการแข่งขันไม่ได้มีเฉพาะธุรกิจขายตรงด้วยกันเอง แต่ยังแข่งขันกับกลุ่มค้าปลีก และธุรกิจออนไลน์ด้วย"

อย่างไรก็ตาม มองว่าทุกวิกฤตที่เกิดขึ้น จะมีโอกาสอยู่เสมอ ซึ่งผู้ประกอบการต้องหาช่องทางจัดจำหน่ายที่สอดคล้องกับปัจจุบัน การออกแบบสินค้าและราคาให้เหมาะ ส่วนนักธุรกิจต้องเพิ่มความเข้มข้นการทำงาน ต้องบริหารค่าใช้จ่าย ต้องแสวงหาเทคโนโลยีในการดูแลเครือข่ายและสร้างระบบธุรกิจของตนเองได้ รวมถึงนักธุรกิจต้องไม่สร้างหนี้เพิ่มด้วย

ด้านดร.สมชาย หัชลีฬหา นายกสมาคมพัฒนาการขายตรงไทย กล่าวว่า กลุ่มคนที่บริโภคขายตรงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนระดับล่างและกลาง ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และผลกระทบจากราคาเกษตรที่ตกต่ำ แต่ในภาวะวิกฤตจะมองเห็นโอกาส โดยเฉพาะธุรกิจขายตรงเป็นการสร้างโอกาสให้คน แม้ว่าในบริษัทขายตรงโครงสร้างการจ่ายผลประโยชน์จะเป็นรูปแบบปิรามิด แต่หากเป็นบริษัทที่ถูกต้องจะมีโครงสร้างการจ่ายเงินที่ยุติธรรม ส่วนการเปิดเออีซีบริษัทที่เปิดดำเนินการมายาวนานมีมาตรฐานและชื่อเสียง จะได้เปรียบด้านการตลาด เนื่องจากได้รับความเชื่อถือในชื่อเสียง

ส่วนนายนพกฤษฎิ์ นิธิเลิศวิจิตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัคเซสมอร์ บีอิ้งค์ จำกัด กล่าวว่า ภาวะวิกฤตและปัญหาแชร์ลูกโซ่ ถือว่าเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่ผู้ประกอบการสามารถดำเนินการได้ คือ การดูแลเฉพาะปัจจัยที่ควบคุมได้ คือ การเสริมสร้างความรู้ความสามารถให้ผู้ประกอบการและนักธุรกิจ รวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจด้วย ที่สำคัญ คือ บริษัทต้องมีกระบวนการพัฒนาให้นักธุรกิจอิสระมีความสามารถมากขึ้น โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องร่ำรวย แต่จะต้องสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับนักธุรกิจ หรือมีรายได้ไปใช้จ่ายเพิ่มได้ นอกเหนือจากเจ้าของบริษัทจะต้องมีเจตนาดำเนินธุรกิจที่ดี

ขณะที่นายนาคาญ ทวิชาวัฒน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย กล่าวว่า ภาวะวิกฤตมีทุกยุคทุกสมัย ซึ่งภาวะวิกฤตถือเป็นโอกาสสำหรับธุรกิจขายตรง เพราะคนจะมองว่าเป็นช่องทางในการหารายได้เสริม แต่ภาวะวิกฤตในปัจจุบันส่งผลกระทบไม่เฉพาะบุคคลทั่วไป แต่กระทบกับบริษัทขายตรงต่างๆ ที่มีทั้งการปิดกิจการ แต่ก็มีบางส่วนที่เปิดใหม่ด้วย และปัจจุบันคนส่วนใหญ่ก็สามารถจะแยกออกว่าธุรกิจขายตรงแตกต่างจากธุรกิจแชร์ลูกโซ่อย่างไร การปรับตัวของธุรกิจขายตรงในปัจจุบัน คือ การสร้างสิ่งแวดล้อมหรือสังคมขายตรงให้ถูกต้อง

"ธุรกิจขายตรงที่ถูกต้อง เป็นการสร้างสังคมที่น่าอยู่สังคมหนึ่ง ถือเป็นแนวทางที่อยู่รอดได้ สิ่งแวดล้อมที่ถูกต้อง จะลดปัญหาที่เกิดขึ้น จะไม่มีปัญหาการแย่งทีมงาน ปัญหาความขัดแย้ง ขณะเดียวกันจะมีอุปกรณ์ที่นักธุรกิจสามารถนำไปใช้ดำเนินธุรกิจได้ ซึ่งในยุคนี้การดึงคนที่มีศักยภาพ ถือว่าเป็นจุดสำคัญมากของธุรกิจขายตรง ส่วนธุรกิจสีเทา หรือมันนี่เกม ยังคงมีอยู่คู่กับธุรกิจขายตรงมาโดยตลอด แนวทางที่ดี คือ การระวังภัย คนไทยบางส่วนก็รู้ แต่ต้องการได้ประโยชน์ก่อน จึงจำเป็นต้องปลูกฝังให้คนไทยไม่โลภ"

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,131 วันที่ 14 - 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559