“บีนส์แอนด์บราวน์” เปิดแผนงาน 3 ปีปั้น “คาซ่า ลาแปง- Rabb Coffee” ครบ 200 สาขา พร้อมสยายปีกรุกตลาดต่างประเทศ จ่อประเดิมสิงคโปร์แห่งแรกหลังพบภาพลักษณ์แบรนด์ไทยดีเยี่ยม หวังปั้นรายได้ 360 ล้านบาทใน 3 ปี
นายเอกชัย สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่ บริหาร บริษัท บีนส์แอนด์บราวน์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านกาแฟแบรนด์ “คาซ่า ลาแปง” (Casa Lapin) ในเครือเจเอเอส แอสเซ็ท ของกลุ่มเจมาร์ท เปิดเผยว่าบริษัทวางแผนงานช่วง 3 ปีนับจากนี้จะสามารถขยายสาขาร้านคาซ่า ลาแปง และร้านกาแฟ Rabb Coffee ให้ได้ 200 สาขาทั้งในและต่างประเทศ แบ่งเป็นร้านคาซ่า ลาแปงปีละ 3-4 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 8-10 ล้านบาท และร้าน Rabb Coffee ปีละ 50 - 100 สาขา ใช้งบลงทุนสาขาละ 7 แสน- 1.5 ล้านบาท
โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดร้านคาซ่า ลาแปง สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ในรูปแบบคาเฟ่เต็มรูปแบบ ภายใต้งบประมาณการลงทุน 12 ล้านบาท บนพื้นที่ 180 ตร.ม. ซึ่งถือเป็นสาขาเรือธงที่จะเป็นร้านต้นแบบสำหรับ คาซ่า ลาแปง ในสาขาอื่นๆ โดยได้เตรียมขยายสาขาเพิ่มเติมในปีหน้าอีก 2 สาขา ได้แก่ สาขาพัทยาเหนือ บริเวณโรงแรมไบรตันแกรนด์พัทยา และอีกแห่งในย่านบางนา บริเวณถนนกิ่งแก้ว-สุวรรณภูมิ จากปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งหมด 6 สาขา โดยทุกสาขาบริษัทเป็นผู้ลงทุนเองทั้งหมด เนื่องจากต้องการควบคุมคุณภาพสินค้าและบริการ โดยตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้จะทำยอดขายรวมได้ทั้งสิ้น 60 ล้านบาท
พร้อมกันนี้ยังเตรียมขยายสาขาไปยังตลาดต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และฮ่องกง เนื่องจากมองเห็นศักยภาพทางการเติบโต โดยคาดว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เนื่องจากแบรนด์ไทยมีภาพลักษณ์ค่อนข้างดีในสิงคโปร์ ประกอบกับฐานลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่ของร้านจะเป็นชาวสิงคโปร์
อย่างไรก็ตามบริษัทได้วางเป้าหมายภายใน 3 ปี (2562-2564) จะสามารถทำรายได้ราว 360 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจร้าน CASA LAPIN 80% และร้านRabb coffee 20% ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมีรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือนราว 5 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 ที่มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนราว 3 ล้านบาท พร้อมกับมีเป้าหมายที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงปี 2564
หน้า 34 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,396 วันที่ 30 ส.ค.- 1 ก.ย. 2561