ผู้กำกับการสถานีตำรวจทองผาภูมิ ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิที่ 37/2561 เรื่องลงโทษภาคทัณฑ์ ร้อยเวรคนที่รับแจ้งความ "เปรมชัย" ทารุณสัตว์ป่าแล้ว
- 1 มี.ค. 61- จากกรณีที่นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย พร้อมพวก คือ นายยงค์ โดดเครือ , นางนที เรียมแสน และ นายธานี ทุมมาศ ถูกจับกุมในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร พร้อมของกลาง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง และอาวุธปืน ข้อหาลักลอบเข้าป่าล่าสัตว์ เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ก่อนจะประกันตัวออกมาด้วยวงเงิน คนละ 150,000 บาท
ต่อมาในวันที่ 27 ก.พ. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวนติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารบริษัท อิตาเลี่ยนไทย จำกัด (มหาชน) กับพวก ร่วมกันลักลอบล่าสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตกว่า เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำคดีล่าช้า เนื่องจากพนักงานสอบสวนมีเวลาสรุปสำนวนคดี 7 ผลัด และขณะนี้คดีมีความคืบหน้ากว่าร้อยละ 80 แล้วมีการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 30 ปาก โดยเป็นเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
โดย พล.ต.อ.ศรีวราห์ ระบุว่า กรณีมีการแชร์กันในโซเชียลมีเดียว่า ข้อหาทารุณกรรมสัตว์(ป่า) ที่มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายเปรมชัยหลุด และพนักงานสอบสวนไม่มีการดำเนินคดี ว่า ข้อหาดังกล่าวไม่ได้หลุด แต่เนื่องจากข้อหานี้ไม่มีในข้อกฎหมายตามพ.ร.บ.ทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 จึงได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนไปพิจารณาว่าผู้ที่ร้องทุกข์กล่าวโทษเข้าข่ายมีเจตนากลั่นแกล้งหรือแจ้งความเท็จหรือไม่ และต้องมีการสอบสวนกรณีร้อยเวร สภ.ทองผาภูมิ รับแจ้งข้อหานายเปรมชัย กับพวก ในความผิดฐานกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ล่าสุด พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจทองผาภูมิ ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งสถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิที่ 37/2561 เรื่องลงโทษภาคทัณฑ์ ร้อยเวรคนที่รับแจ้งความแล้ว
โดยหนังสือระบุว่าตามที่ นายณรงค์ชัย สังวรวงศา หัวหน้าด่านกักกันสัตว์กาญจนบุรี และมีอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมสัตว์และการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พุทธศักราช 2557 ได้มาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2561 ให้ดำเนินคดีกับ นายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก ในความผิดฐานกระทำการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร และได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามระเบียบแล้วนั้น แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2561 นายณรงค์ชัย ได้เดินทางมาพบ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวนพร้อมกับได้ให้ปากคำเพิ่มเติมว่า หลังจากตนได้มาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษเมื่อวันที่ 7 ก.พ. 2561 ปรากฏว่าได้ไปตรวจสอบกับคำนิยามของคำว่า สัตว์ ตามมาตรา 3 ให้หมายความรวมถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในธรรมชาติตามที่รัฐมนตรีกำหนด และได้ตรวจสอบแล้วปรากฏว่ารัฐมนตรียังมิได้ประกาศกำหนดสัตว์ตามธรรมชาติว่าต้องเป็นสัตว์ชนิดใด จึงได้ขอถอนคำร้องทุกข์ไปตามระเบียบแล้ว นั้น
[caption id="attachment_264090" align="aligncenter" width="503"]
ร.ต.อ.สุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน[/caption]
การกระทำของ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ พนักงานสอบสวน เป็นการบกพร่องต่อหน้าที่ ไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายให้แน่ชัดว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมายหรือไม่ และรับคำร้องทุกข์ไว้
ฉะนั้น อาศัยอำนาจแห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธศักราช 2547 มาตรา 89 ประกอบกับกฎ ก.ตร. ว่าด้วยอำนาจการลงโทษข้าราชการตำรวจ อัตราโทษและการลงโทษภาคทัณฑ์ ทัณฑกรรม กักยาม กักขัง หรือตัดเงินเดือน พุทธศักราช 2547 จึงให้ลงโทษภาคทัณฑ์ ร้อยตำรวจเอกสุมิตร บุญยะนิจ
อนึ่ง ผู้ถูกลงโทษตามคำสั่งนี้ มีสิทธิอุทธรณ์ต่อผู้บังคับบัญชา หรือ ก.ตร. แล้วแต่กรณี ตามมาตรา 105 แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พุทธสักราช 2547 และหากประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครอง หรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไปยังศาลปกครอง ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง หรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ หรือภายใน 30 วัน นับแต่วันพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือร้องขอทราบผลการวินิจฉัยอุทธรณ์