Play
กรุงศรีเปิดตัว Krungsri iFIN สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลครบวงจร
-27 ก.พ.61- กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดตัว Krungsri iFIN สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลครบวงจร ที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การขอสินเชื่อจนถึงการรับเงิน พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าปกติ 3%
[caption id="attachment_263381" align="aligncenter" width="335"]
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร[/caption]
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สินเชื่อส่วนบุคคล Krungsri iFIN เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางการเงินในโลกดิจิทัลอย่างครบวงจรในรูปแบบ end-to-end digital process อย่างแท้จริง ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร ส่งเอกสาร เช็คสถานะการสมัคร รับโอนเงินสินเชื่อ รวมถึงการบริหารจัดการทุกธุรกรรมในบัญชีสินเชื่อ ตรวจสอบรายการเดินบัญชีบน e-Statement รวมถึง ถอน โอน จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน KMA ได้ง่ายๆ สะดวก ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าปกติ”
“Krungsri iFIN ตอกย้ำกลยุทธ์ของธนาคารที่มุ่งเน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมภายใต้แนวคิด Digital First และสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล Krungsri iFIN กรุงศรีได้นำบริการ NCB e-Consent หรือการให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลโดยวิธีการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้จริง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและคล่องตัวในการใช้บริการ ทำให้ลูกค้ารับเงินสินเชื่อภายในเวลาเพียง 1-3 วันหลังจากธนาคารได้รับเอกสารครบจากลูกค้า และในอนาคตอันใกล้นี้ กรุงศรีมีแผนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ ทั้งในเรื่องของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ และตามมาด้วยการใช้ Social Connect, Robotic Process, AI และ Big Data ในการพิจาณาสินเชื่อ ทำให้เกิดความถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น และยังสามารถนำเสนอสินเชื่อได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย” นายพงษ์อนันต์กล่าว
ในเฟสแรกนี้ กรุงศรีจะนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัลครบวงจร Krungsri iFIN ให้กับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารและเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ก่อนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบรายย่อย (Self-employed) ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ กรุงศรีตั้งเป้าหมายสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านช่องทางดิจิทัลจำนวน 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้น 125% จากปีก่อน
[caption id="attachment_263381" align="aligncenter" width="335"]
นายพงษ์อนันต์ ธณัติไตร ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและเครือข่ายการขาย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สินเชื่อส่วนบุคคล Krungsri iFIN เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสประสบการณ์ทางการเงินในโลกดิจิทัลอย่างครบวงจรในรูปแบบ end-to-end digital process อย่างแท้จริง ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัคร ส่งเอกสาร เช็คสถานะการสมัคร รับโอนเงินสินเชื่อ รวมถึงการบริหารจัดการทุกธุรกรรมในบัญชีสินเชื่อ ตรวจสอบรายการเดินบัญชีบน e-Statement รวมถึง ถอน โอน จ่าย ผ่านแอปพลิเคชัน KMA ได้ง่ายๆ สะดวก ทุกที่ทุกเวลา ทำให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าปกติ”
“Krungsri iFIN ตอกย้ำกลยุทธ์ของธนาคารที่มุ่งเน้นขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมภายใต้แนวคิด Digital First และสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้กับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล Krungsri iFIN กรุงศรีได้นำบริการ NCB e-Consent หรือการให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลโดยวิธีการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้จริง เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและคล่องตัวในการใช้บริการ ทำให้ลูกค้ารับเงินสินเชื่อภายในเวลาเพียง 1-3 วันหลังจากธนาคารได้รับเอกสารครบจากลูกค้า และในอนาคตอันใกล้นี้ กรุงศรีมีแผนนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ ทั้งในเรื่องของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล หรือ Digital ID ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ และตามมาด้วยการใช้ Social Connect, Robotic Process, AI และ Big Data ในการพิจาณาสินเชื่อ ทำให้เกิดความถูกต้องแม่นยำมากยิ่งขึ้น และยังสามารถนำเสนอสินเชื่อได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย” นายพงษ์อนันต์กล่าว
ในเฟสแรกนี้ กรุงศรีจะนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อดิจิทัลครบวงจร Krungsri iFIN ให้กับกลุ่มลูกค้าปัจจุบันที่มีบัญชีเงินฝากกับธนาคารและเป็นกลุ่มที่มีรายได้ประจำเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ก่อนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ประกอบรายย่อย (Self-employed) ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้
ทั้งนี้ กรุงศรีตั้งเป้าหมายสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านช่องทางดิจิทัลจำนวน 1,000 ล้านบาทภายในสิ้นปี 2561 เพิ่มขึ้น 125% จากปีก่อน
