‘ขอ.ไข่ ตอ.เต่า’รุกแฟรนไชส์ ปั้นขนมโบราณยุคใหม่ดันรายได้หลักแสนต่อวัน

ขอ.ไข่ ตอ.เต่า เล็งต่อยอดธุรกิจปล่อยแฟรนไชส์ พร้อมขยายสาขา รวมถึงเพิ่มกระทะ และจับมือผู้ประกอบการดีลิเวอรีขยายฐานลูกค้า คาดปีหน้ามีรายได้หลักแสนบาทต่อวัน

นางสาวพิมพ์พนิต อินทร์มงคล เจ้าของร้าน “ขอ.ไข่ ตอ.เต่า ผู้ผลิตและจำหน่ายขนมไข่เต่าหลากสี และสอดไส้ชีสเปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในปี 2561 มีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปอีกหลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย การต่อยอดธุรกิจไปสู่รูปแบบของแฟรนไชส์เพื่อขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดรับผู้ที่สนใจได้ในปี 2561 ทั้งนี้ การทำธุรกิจในรูปแบบของแฟรนไชส์นั้นมีไอเดียมาจากความต้องการของลูกค้าจำนวนมากที่สอบถามเข้ามาอยากร่วมธุรกิจ แม้ว่าร้าน “ขอ.ไข่ ตอ.เต่า” จะเพิ่งเปิดให้บริการมาได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น โดยสาเหตุที่กล้าตัดสินใจที่จะเปิดธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์นั้น เพราะมองว่าเราสามารถควบคุมการผลิตเองได้ทุกขั้นตอน

ร้านขอ.ไข่ ตอ.เต่าเตรียมที่จะขยายสาขาเพิ่มเติมอีก 1 สาขา โดยมองทำเลไว้ที่ตลาดอินดี้ ราชพฤกษ์ รวมถึงการเพิ่มจำนวนกระทะในการทอด เนื่องจากที่ผ่านมาไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทั้ง 100% จะมีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่อดทนรอต่อการต่อคิวเป็นเวลานาน ส่งผลให้เสียโอกาสทางธุรกิจนอกจากนี้ยังเตรียมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับผู้ให้บริการส่งสินค้าแบบดีลิเวอรี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ไม่สามารถเดินทางมายังที่ร้านได้

“การดำเนินการต่อยอดธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าดังกล่าวส่วนใหญ่มาจากความต้องการของลูกค้าซึ่งได้มีการพูดคุยกับเราเวลาที่มาซื้อขนมไข่เต่า และบอกว่าต้องการอะไร เราก็จะนำกลับมาพิจารณาในส่วนที่สามารถดำเนินการให้เป็นไปได้”

นางสาวพิมพ์พนิต กล่าวต่อไปอีกว่า ในปี 2561 คาดว่าจะสามารถขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชน์ได้ประมาณ 10 สาขา โดยเมื่อผสมผสานกับการที่เราเอง รวมถึงการเพิ่มจำนวนกระทะในการทอด และการให้บริการในรูปแบบดีลิเวอรี เชื่อว่าจะทำให้ร้านภายใต้แบรนด์ “ขอ.ไข่ ตอ. เต่า” มีรายได้อยู่ที่ประมาณหลักแสนบาทต่อวัน จากเดิมที่ปัจจุบันมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทต่อวัน

สำหรับขนมไข่เต่าของร้าน “ขอ.ไข่ ตอ.เต่า” นั้น มีให้เลือกด้วยกัน 4 รสชาติ ประกอบด้วย 1.รสมันเทศ ซึ่งเป็นรสดั้งเดิมของขนมไข่เต่า 2.รสมันม่วง ซึ่งเป็นมันจากประเทศญี่ปุ่นทำให้ได้ขนมไข่เต่าสีม่วง 3.รสมันออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้ได้ขนมไข่เต่าสีส้ม และ 4.รสชาโคล ที่ได้สีดำมาจากถ่านชาโคลเป็นส่วนผสม นอกจากนี้ ที่สำคัญที่ 4 รสชาติ 4 สียังเพิ่มความพิเศษได้ด้วยการใส่ชีสลงไปตรงกลาง ทำให้ได้รสชาติของขนมไข่เต่าที่แปลกใหม่ถูกใจผู้บริโภคทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ การันตีได้จากการที่มีลูกค้ามาซื้อซํ้ามากกว่า 50% ที่ได้ซื้อไป

“ขนมไข่เต่าของเราจะมีให้เลือกหลากหลายสีตามชนิดของมันที่นำมาใช้เป็นส่วนผสม อีกทั้งยังมีให้เลือกในรูปแบบสอดใส่ชีสตรงกลาง ซึ่งจะมีขนาดของลูกที่ใหญ่โตกว่าขนาดปกติ และมีเนื้อแน่น แต่ยังคงความกรอบนอกนุ่มในเช่นเดียวกันด้วยวิธีการทอดที่เป็นสูตรลับเฉพาะของทางร้าน โดยจุดเด่นของขนมนอกจะมีสีสันแปลกตาแล้วยังทำมาจากมันที่เป็นส่วนผสมมากกว่า 80% ซึ่งแตกต่างจากร้านขยายขนมไข่เต่าทั่วไปในตลาด”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,330 วันที่ 11 - 13 มกราคม พ.ศ. 2561