หลังจากตระกูล “สกลกิติวัฒน์” ได้บุกเบิกธุรกิจโรงแรมบนพื้นที่หาดอ่าวนาง จังหวัดกระบี่ ในยุคแรกๆ มานานกว่า 33 ปี ในนาม “อ่าวนาง วิลล่า รีสอร์ต” จากการเริ่มต้นเพียงบังกะโล จนพัฒนาเรื่อยมา กลายเป็นรีสอร์ตระดับ 4 ดาว ขนาด 154 ห้อง ล่าสุดตระกูลนี้ก็ได้ปักธงรีสอร์ตแห่งใหม่ระดับ 5 ดาว ณ โลเคชัน “แหลมโพธิ์” ใกล้กับสุสานหอย อายุ 75 ล้านปี อ่านได้จากสัมภาษณ์ นายเปล่งยศ สกลกิติวัฒน์ กรรมการผู้จัดการเดอะเชลซี รีสอร์ต
ลงทุนรับทราเวลกระบี่โต
คุณเปล่งยศ เปิดใจว่า ด้วยความที่เราเป็นคนกระบี่ และทำโรงแรมอยู่ในพื้นที่นี้มานานถึง 33 ปี จึงเห็นชัดเจนถึงการเติบโตของธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่นี้ ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยเติบโตราว 7% ต่อปี ในปีที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนี้สร้างรายได้ให้กระบี่สูงสุด 8.5 หมื่นล้านบาท และกำลังเป็นเดสติเนชันใหม่ด้านการท่องเที่ยวของไทย
เนื่องจากจุดขายการท่องเที่ยวกระบี่ คือ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทางผู้บริหารของจังหวัดได้วางกล ยุทธ์นี้มาตั้งแต่กว่า 20 ปีแล้ว ทำให้ที่นี่จึงไม่มีร่มชายหาด เจ็ตสกี หรือเรือลากกล้วย มาเป็นบ่อนทำลายการท่องเที่ยวโดยไม่รู้ตัวเหมือนจังหวัดอื่นๆ
การเติบโตของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น สะท้อนได้ชัดเจนจากการให้บริการเที่ยวบินของสายการบินจากต่างประเทศ ที่เริ่มทยอยหันมาเปิดทำการบินตรงเข้าสู่กระบี่เพิ่มขึ้น อย่างล่าสุด สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ก็เปิดเที่ยวบินเส้นทางกระบี่-โดฮา ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวกระบี่ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวสวีเดน ฟินแลนด์ เยอรมนี อังกฤษ ดังนั้นการลงทุนโรงแรม ซึ่งเป็นกลไกเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จึงเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดี
[caption id="attachment_188321" align="aligncenter" width="503"]
ปักธง‘แหลมโพธิ์’ โลเกชันใหม่ ลักชัวรี รีสอร์ต กระบี่[/caption]
เห็นโอกาสธุรกิจรร.5ดาว
อีกทั้งจากข้อมูลภาพรวมธุรกิจโรงแรมกระบี่ในปัจจุบัน พบว่ามีทั้งที่จดทะเบียนถูกต้องและที่ไม่ได้จดทะเบียน มีห้องพักโดยรวมอยู่กว่า 4 หมื่นห้อง โดยส่วนใหญ่เป็นห้องพักระดับ 4 ดาวลงมา ขณะที่โรงแรมระดับ 5 ดาว มีไม่ถึง 3% ดังนั้นเมื่อเรามี อ่าวนาง วิลล่า รีสอร์ต ริมหาดอ่าวนาง ซึ่งได้มีการพัฒนาจากบังกะโล มาเป็นที่พักในระดับ 4 ดาว ซึ่งติดตลาดอยู่แล้ว เราจึงเห็นโอกาสที่เราจะลงทุนรีสอร์ต ระดับ 5 ดาวได้ เพราะการแข่งขันในธุรกิจโรงแรมระดับนี้ยังมีน้อย
ประกอบกับทำเลที่ตั้งของที่ดินที่เรามีอยู่ จำนวน 16 ไร่ ใกล้สุสานหอย ที่เป็นมรดกโลก ซึ่งในโลกนี้มีเพียง 3 แห่ง คือ ที่ชิคาโก, ญี่ปุ่น และกระบี่ อีกทั้งที่ตั้งของ เดอะเชลซี รีสอร์ท เรียกได้ว่าเป็นชายหาดเม็ดสุดท้ายก่อนถึงสุสานหอยก็ว่าได้ ทั้งยังอยู่ไม่ไกลจากจุดไฮไลต์ของกระบี่ คือ อ่าวนาง ที่อยู่ห่างจากโรงแรมเพียง 8 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับท่าเรืออ่าวนํ้าเมา และโครงการมารีน่าแห่งใหม่ของกระบี่ อย่าง พอร์ตตะโกลา จึงทำให้เราตัดสินใจสร้างรีสอร์ต ภายใต้ชื่อ “เดอะเชลซี รีสอร์ท” มีห้องพักและวิลล่า รวม 72 ห้อง มูลค่าการลงทุนราว 1 พันล้านบาท ที่เพิ่งเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา
การลงทุนโรงแรมใหม่ โดยเฉพาะ 5 ดาว ในกระบี่ วันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างโลเกชันอ่าวนาง วันนี้ราคาที่ดินวิ่งไปอยู่ที่ 50-70 ล้านบาทต่อไร่แล้ว การลงทุนใหม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก หรือปัญหามีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะมีผู้ครอบครองอยู่แล้ว แตกต่างในช่วงที่เราบุกเบิกเมื่อ 33 ปีก่อน หรือแม้แต่ที่ดินบริเวณแหลมโพธิ์ มูลค่าที่ดิน 15 ล้านบาทต่อไร่ไปแล้ว แต่เรามีที่ดินนี้ในมือมานาน ก็ทยอยลงทุนไปเรื่อยๆและเพิ่งเปิดให้บริการ ซึ่งก็เชื่อว่าต่อไปไม่เกิน 5 ปีนี้ พื้นที่นี้ก็จะมีจำนวนโรงแรมเพิ่มขึ้น แต่เราไม่ได้วิตก เพราะเราลงทุนก่อน และมีจุดขายในเรื่องของยูนิค โลเกชัน ที่ไม่เหมือนใคร
คาดใช้เวลาคืนทุน 8 ปี
การสร้างรีสอร์ตระดับ 5 ดาวขึ้นในทำเลนี้ นับว่าเป็นพื้นที่การลงทุนใหม่ สำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาวในกระบี่ เพราะเป็นที่ทราบกันว่าโรงแรมระดับ 5 ดาว มักจะปักหลักก่อสร้างกันอยู่แถวหาดคลองม่วง แต่สำหรับเรา ด้วยโลเกชันที่เรามีอยู่ บริเวณบ้านแหลมโพธิ์ ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของ ยูนิค โลเกชัน รวมถึงความเป็นส่วนตัวของรีสอร์ตติดทะเล ทำให้เราตัดสินใจสร้างโรงแรมออกมาเป็นดีไซน์ บูติก รีสอร์ต รวม 72 ห้อง ที่มีทั้งแบบดีลักซ์ไปจนถึงห้องพักแบบพูลวิลล่า คาดว่าใช้เวลาคืนทุน 8 ปี
ทั้งนี้แม้เราจะสร้างรีสอร์ต ระดับ 5 ดาว แต่การบริหารงานจะดำเนินการโดยคนไทยทั้งหมด โดยผู้บริหารส่วนใหญ่ล้วนผ่านงานบริหารโรงแรม 5 ดาวมาจากเชนโรงแรมต่างประเทศ ทำให้มั่นใจถึงการให้บริการในระดับสากล กลุ่มลูกค้าหลักของรีสอร์ต หากเป็นนักท่องเที่ยวระยะไกล จะเป็นนักท่องเที่ยวเยอรมัน อังกฤษ สหราชอาณาจักร ตลาดเอเชีย จะเป็นญี่ปุ่น และเกาหลี ที่สามารถขายกลุ่มลูกค้าฮันนีมูนได้ เนื่องจากเรามีตัวแทนขายอยู่ในประเทศเหล่านี้
อีกทั้งความที่เรามีโรงแรมในมือที่ดำเนินการมานานมากแล้ว อย่าง อ่าวนาง วิลล่า รีสอร์ต ก็ทำให้เรามีฐานเอเยนต์ต่างชาติอยู่แล้ว การมีโรงแรมใหม่เพิ่มอีก 1 แห่ง ที่เป็นอีกเซ็กเมนต์หนึ่ง ก็ทำให้เราสามารถพ่วงการขายเชื่อมโยงกันได้ด้วย ควบคู่ไปกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ในปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 40-50% ซึ่งโรงแรมที่อ่าวนาง เราจะขายห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ราว 3,500 บาทต่อคืน แต่ที่เดอะเชลซี รีสอร์ต จะขายห้องพักเฉลี่ยอยู่ที่ราว 8,000 บาทต่อคืน แต่ในช่วงเปิดตัวจะขายในราคาเริ่มต้นที่ 5,000 บาท โดยในช่วงปีแรกของการเปิดให้บริการ วางเป้าหมายไว้ว่าจะผลักดันอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ราว 48%
ทั้งหมดล้วนเป็นวิสัยทัศน์ในการปักธงโรงแรมใหม่ ของ ตระกูล “สกลกิติวัฒน์” ที่เกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,284 วันที่ 3 -5 สิงหาคม พ.ศ. 2560