แบรนด์ใบสลาดโหมวิจัย ต่อยอด‘ถุงรีทอร์ตเพาช์’

29 มิ.ย. 2560 | 06:35 น.
อัปเดตล่าสุด :29 มิ.ย. 2560 | 13:22 น.
บ.โรสอารยาฟู้ด ลุยวิจัยและพัฒนานวัตกรรมถุงรีทอร์ตเพาช์ หวังทำตลาดจีน หลังออกงานแสดงสินค้า ลูกค้าให้ความสนใจล้นหลาม ก่อนขยายไปสู่ประเทศอื่น แย้มมีแผนทำตลาดในประเทศในอนาคต เชื่อรายได้ปีนี้แตะ 40 ล้านบาท

[caption id="attachment_170288" align="aligncenter" width="503"] ฉัตรชัย โพธิ์วรสิน ที่ปรึกษา บริษัท โรสอารยาฟู้ด จำกัด ฉัตรชัย โพธิ์วรสิน ที่ปรึกษา บริษัท โรสอารยาฟู้ด จำกัด[/caption]

นายฉัตรชัย โพธิ์วรสิน ที่ปรึกษา บริษัท โรสอารยาฟู้ด จำกัดผู้ผลิตและจำหน่ายขนมไทยส่งออกด้วยนวัตกรรมแช่แข็งภายใต้แบรนด์“ใบสลาด” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทกำลังดำเนินการค้นคว้าและวิจัยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ที่เป็นการฆ่าเชื้อในอุณหภูมิปกติ โดยบรรจุลงถุงรีทอร์ตเพาช์(retort pouch) ซึ่งจะทำให้เก็บรักษาผลิตภัณฑ์ไว้ได้นานโดยไม่ต้องแช่เย็นหรือแช่แข็ง ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) เพื่อนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ขนมไทยส่งออก

ทั้งนี้ การทำตลาดด้วยนวัตกรรมดังกล่าว คาดว่าจะเริ่มต้นส่งออกไปจำหน่ายที่ประเทศจีนได้เป็นประเทศแรกภายในปีนี้หลังจากที่มีลูกค้าจากประเทศจีนให้ความสนใจสินค้าเป็นจำนวนมากจากการที่บริษัทได้ไปออกงานแสดงสินค้าทั้งที่งานไทยเฟค (THAIFEX)และงานที่เซี่ยงไฮ้โดยจะเลือกใช้กลยุทธ์ในรูปแบบของการหาตัวแทนจำหน่ายซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการทำตลาดในพื้นที่ควบคู่ไปกับการนำเข้าไปจำหน่ายด้วยตนเอง หลังจากที่ได้มีการเข้าไปศึกษาตลาด และทดลองการทำตลาดแล้วในช่วงที่ผ่านมา

TP13-3274-3 อย่างไรก็ดี หลังจากที่ทำตลาดในประเทศจีนด้วยนวัตกรรมรีทอร์ตเพาช์แล้วได้ผลดีอย่างที่วางเป้าหมายเอาไว้ จะขยายการทำตลาดเพิ่มเติมไปยังสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส,เยอรมนี และแคนาดา จากเดิมที่กลุ่มประเทศเหล่านี้บริษัทเข้าไปทำตลาดด้วยนวัตกรรมการแช่แข็งผลิตภัณฑ์

“การทำตลาดในจีนบริษัทได้นำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ในปีนี้จะเป็นการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีที่ใช้ในการเข้าไปทำตลาด เพื่อเป็นการเข้าทำตลาดอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น”

TP13-3274-4 ส่วนการทำตลาดในประเทศนั้น บริษัทก็มีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายเช่นกัน แต่คงจะต้องรอให้การทำตลาดในต่างประเทศที่บริษัทมุ่งเน้นมีเสถียรภาพก่อนโดยการทำตลาดในประเทศอาจจะต้องมีการปรับรสชาติของขนมไทยซึ่งบริษัทมีจุดเด่นที่การทำรสชาติเป็นกลาง ไม่หวานมากและไม่มีความมันจนเกินไป ทำให้เป็นที่นิยมของลูกค้าต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเรื่องการดูแลสุขภาพ แต่ผู้บริโภคในประเทศจะชอบรสชาติที่เข้มข้นทั้งความหวานและความมันแบบถึงเครื่อง

นายฉัตรชัยกล่าวต่อไปอีกว่า จากการขยายตลาดด้วยนวัตกรรมรีทอร์ตเพาช์ที่จะนำมาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์เชื่อว่าจะทำให้รายได้ของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นประมาณ 1 เท่าของปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10-20 ล้านบาทเนื่องจากลูกค้าเดิมเองก็มีความต้องการผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้นจากที่เคยส่งออกไปเดือนละ 1 ตู้ ขนาด4 ฟุต เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด สำหรับผลิตภัณฑ์ขนมไทยที่บริษัททำตลาดอยู่ในปัจจุบันประกอบไปด้วย ข้าวต้มมัด, ขนมตาล, ขนมใส่ไส้, ขนมเทียน และขนมถ้วย เป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,274
วันที่ 29 มิถุนายน - 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2560