ข้าวสักทองรุกต่อยอดธุรกิจค้าข้าว สู่ตลาดขนมขบเคี้ยวทำจากข้าวขายในโมเดิร์นเทรด-ร้านสะดวกซื้อ เล็งปูพรมทั่วประเทศ พร้อมบุกตลาดนอก หลังลูกค้าจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่นตอบรับรุมสั่งซื้อ เล็งขยายไลน์ผลิตเด้งรับออร์เดอร์ มั่นใจยอดขายปีนี้โต 10%
นางสาวนันทิยา เจียมอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเฟิร์ส เกรน จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัดข้าวดีต้นสักทอง ผู้ประกอบการข้าวถุงแบรนด์ “ข้าวสักทอง”สำหรับจำหน่ายตลาดในประเทศ และแบรนด์ “TFG”สำหรับตลาดต่างประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ปัจจุบันเป็นรุ่น 3 ของครอบครัว โดยทั้ง 2 บริษัทรับข้าวที่ผลิตโดยโรงสีของเครือมาจัดจำหน่าย โดยตลาดในประเทศสินค้าวางขายในซูเปอร์มาร์เก็ตในเครือเดอะมอลล์ และส่งให้กับร้านอาหารชั้นนำ โรงพยาบาล และโรงแรมหลายแห่ง สินค้าที่ทำตลาดเป็นข้าวหอมมะลิ 100% และข้าวเหนียว(กข.6) ขนาด 5-25 กิโลกรัม ซึ่งตลาดถือว่าโตต่อเนื่อง
[caption id="attachment_168509" align="aligncenter" width="472"]
นันทิยา เจียมอัมพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยเฟิร์ส เกรน จำกัด[/caption]
ส่วนตลาดต่างประเทศภายใต้แบรนด์ TFG ส่งออกข้าวหอมมะลิ 100% และข้าวเหนียว(กข.6) ขนาด 1,5 และ 25 กิโลกรัม มีคู่ค้าในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสวิตเซอร์แลนด์ วางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ต และขายส่งให้กับภัตตาคาร/ร้านอาหารไทย และจีน ลูกค้ายังสั่งประจำอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
“ภาพรวมตลาดข้าวของเครือทำตลาดในประเทศ 70% และส่งออก 30% โดยยอดขายรวมปีนี้น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนได้ประมาณ 10% ปัจจัยบวกจากราคาข้าวในตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น”
นอกจากธุรกิจข้าวถุงแล้วล่าสุดได้จัดตั้งบริษัท พีซีอาร์ สแน็ก แอนด์ฟู้ด จำกัด ผลิตและจำหน่ายขนมอบกรอบใช้วัตถุดิบจากข้าว โดยได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกเป็นข้าวพองอบกรอบตราพูชิ (Puchi) ผลิตจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวหอมมะลิแท้ 100% ผ่านกระบวนการผลิตด้วยวิธีการอบกรอบแทนการทอด เปิดตัวครั้งแรกในงานไทยเฟ็กซ์ 2017 ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างน่าพอใจ มีลูกค้าจากเซี่ยงไฮ้ของจีน และจากฮ่องกงได้ติดต่อนำสินค้าไปจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงมีลูกค้าจากญี่ปุ่นติดต่อให้ผลิตป้อนภายใต้แบรนด์ลูกค้า(โออีเอ็ม)
ขณะที่ตลาดในประเทศอยู่ระหว่างติดต่อเพื่อวางจำหน่ายในร้านเลมอนฟาร์ม รวมถึงโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้ออีกหลายแห่ง หากได้รับการตอบรับที่ดีทางบริษัทพร้อมขยายการผลิตรองรับ โดยราคาขายปลีกอยู่ที่ 35 บาทต่อถุง ซึ่งอยู่ระหว่างการออกรสชาติใหม่เป็นรสโนริสาหร่ายทะเล และรสคอนชีส จากปัจจุบันเป็นรสชาติต้นตำรับ และในอนาคตยังมีแผนขยายไลน์เป็นขนมเชิงสุขภาพทำจากข้าวอีกหลายรายการ
“ธุรกิจของเครือเริ่มจากรุ่นคุณยายทำธุรกิจโรงสีมากว่า 30 ปี คุณพ่อและคุณแม่เป็นรุ่นที่ 2 ที่สานต่อธุรกิจโรงสี และในรุ่นที่ 3ได้มาทำธุรกิจข้าวถุงแบรนด์ข้าวสักทองในนามห้างหุ้นส่วนจำกัดข้าวดีต้นสักทอง ก่อนขยายมาตั้งบริษัทไทยเฟิร์สเกรนฯ เพื่อทำธุรกิจส่งออกข้าวถุง และล่าสุดตั้งบริษัทพีซีอาร์ สแน็กแอนด์ ฟู้ดฯ เพื่อทำธุรกิจขนมขบเคี้ยวต่อยอดจากธุรกิจข้าว”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,273 วันที่ 25 - 28 มิถุนายน พ.ศ. 2560