กระแสข่าวไทยจะได้จัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก โมโตจีพี ในปี 2561-2563 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ยิ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้รักความเร็วทั่วโลก ส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ จังหวัดบุรัมย์มีความพร้อมแค่ไหน คงต้องติดตามจากการสัมภาษณ์ น.พ. วิกรม สมจิตต์อารีย์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์คนล่าสุด
-
จัดการแข่งขันโมโต จีพีในไทย
การจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก โมโตจีพี ในประเทศไทย ได้สิทธิ์จัด 3 ปีคือปี 2561-2563 ค่าลิขสิทธิ์ปีละ 400 ล้านบาท โดยภาครัฐจะออกให้ 100 ล้านบาท ที่เหลือจะเป็นการระดมทุนจากภาคเอกชน สปอนเซอร์ต่างๆ รวม 200-300 ล้านบาท การแข่งขันแต่ละครั้งจะมีทีมงาน ผู้ชมและนักท่องเที่ยวหลายหมื่นคน ทำให้มีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 1,00 ล้านบาท ทีมนักแข่งจะต้องเดินทางมาล่วงหน้าใช้ชีวิตที่บุรีรัมย์ 10-20 วัน ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจจังหวัดบุรีรัมย์และรัฐบาลไทยอย่างแน่นอน
-
ความพร้อมของโรงแรม
การจัดการแข่งขัน โมโตจีพี จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัดบุรีรัมย์และประเทศไทยอย่างแน่นอน จะมีชาวต่างประเทศจำนวนมากเดินทางเข้าชมการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบระดับโลก โรงแรมที่พัก จะถูกจองเต็มล่วงหน้า โดยในเขตอำเภอเมือง จะมีโรงแรมและห้องพักรวม 4,000-5,000 ห้อง และอำเภอใกล้เคียงอีกไม่ถึง 1,000 ห้อง ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ชมจากทั่วโลก ผู้ชมส่วนหนึ่งอาจต้องหาที่พักในจังหวัดสุรินทร์ท่ที่ห่างออกไป 50 กม. หรือจังหวัดนครราชสีมา ที่ห่างออกไป 120 กม. ขับรถใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม
ปัจจุบัน มีสายการบินนกแอร์และไทยแอร์เอเชียบินจากสนามบินดอนเมืองมายังสนามบินบุรีรัมย์วันละ 4 เที่ยวบินทุกวัน ในอนาคตอาจมีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินและสายการบินมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงการแข่งขัน ซึ่งคาดว่า จะจัดประมาณต้นเดือนตุลาคม เมื่อมีความต้องการสายการบินอาจจัดเที่ยวบินข้ามภูมิภาค เช่น จากสนามบินอู่ตะเภา(พัทยา)มายังสนามบินบุรีรัมย์ หรือภูเก็ตลงบุรีรัมย์ เชียงใหม่มาบุรีรัมย์ ซึ่งจังหวัดใหญ่ๆเหล่านี้มีความพร้อมด้านโรงแรมที่พักอย่างมากอยู่แล้ว
[caption id="attachment_166142" align="aligncenter" width="480"]
น.พ. วิกรม สมจิตต์อารีย์ ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์[/caption]
-
ดึงดูดนักลงทุนต่างถิ่น
จากการที่จังหวัดบุรีรัมย์ดำเนินยุทธศาตร์การพัฒนาเมืองในรูปแบบ"สปอร์ตซิตี้ "มีสนามฟุตบอลไอ-โมบาย สเตเดียม รังเหย้าของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดการแข่งขันรายการโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ ลีก อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี มีสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามการแข่งขันรถยนต์และรถจักรยานยนต์มาตรฐานระดับโลก มีรายการการแข่งขันตลอดทั้งปี มีการลงทุนสร้างโรงแรม ที่พักเพิ่มขึ้นมากมาย แต่เงินทุนในจังหวัดบุรีรัมย์อาจขยายได้ไม่ทันกับความต้องการ ซึ่งในการประชุมหอการค้าทั่วประเทศครั้งล่าสุด จึงชักชวนชาวหอการค้าทั่วประเทศ เดินทางมาชมการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ในแนวทาง"สปอร์ต ซิตี้" ในช่วงต้นเดือนกันยายน 2560 พร้อมดูลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ภัตตาคาร ระบบการคมนาคม-ขนส่งสาธารณะการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การสร้างสนามฟุตบอลไอ-โมบาย ราคาที่ดินขยับตัวเพิ่มขึ้น 50-100 % แล้ว
-
ชู"สปอร์ต ซิตี้"แห่งแรก
จากการที่บุรีรัมย์มีทั้งสนามฟุตบอลและสนามแข่งขันรถ มีการจัดกิจกรรรมและการแข่งขันต่อเนื่องตลอดทั้งกว่า ปีละ 50 ครั้ง เรียกได้แทบจะมีกิจกรรมทุกสัปดาห์ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมบุรีรัมย์มาราธอน ซึ่งจัดปีนี้เป็นปีแรก และได้ยอมรับนักวิ่งทั่วประเทศว่า เป็นมาราธอนที่ดีที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากจัดได้มาตรฐานระดับโลก มีการปล่อยตัวนักวิ่งที่สนามช้าง เซอร์กิต ซึ่งมีความพร้อมในด้านห้องน้ำที่มีจำนวนมากเกินพอ มีการปล่อยตัวนักวิ่งบนแทรคของสนามแข่งรถมาตรฐานฟอร์มูล่า 1 มีเซฟตี้คาร์ นำขบวนเหมือนการแข่งรถจริงๆ ทัศนียภาพตลอดเส้นทางวิ่งก็น่าชม ผ่านอ่างเก็บน้ำ ผ่านเขาพนมรุ้ง ผ่านภูเขาไฟที่ดับแล้ว ขณะชาวเมืองบุรีรัมย์ก็อออกมาต้อนรับนักวิ่งและปรบมือเชียร์ให้กำลังใจตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกับ การแข่งขันรถจักรยานทางไกล บุรีรัมย์ ไบค์ วีค ก็สร้างความประทับใจให้กับนักปั่นจากทั่วประเทศ
นอกจากนี้ กำลังหาแนวทางการจัดการแข่งขันกีฬาทางน้ำ เจ็ตสกี โดยบุรีรัมย์มีอ่างเก็บน้ำที่สวยงาม 2 แห่งคืออ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก และอ่างเก็บน้ำห้วยตลาด และยังมีแผนสร้างไบค์เลนสำหรับการพักผ่อนออกกำลังกายรอบอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มากระยะทาง 18 กม.อีกด้วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,272 วันที่ 22 - 24 มิถุนายน พ.ศ. 2560