คสช. งัด ม.44 ปลดล็อกรถไฟไทย-จีน เร่งเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา

15 มิ.ย. 2560 | 16:06 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

คสช. งัด ม.44 ปลดล็อกรถไฟไทย-จีน เร่งเดินหน้าสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา

988b27af8f8a92ce156cee84a82ff95d

–15 มิ.ย.60- จากกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี  ได้เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พิจารณาใช้คำสั่งตามมาตรา 44 เร่งเดินหน้าโครง การรถไฟความเร็วสูงไทยจีนในสัปดาห์หน้า หลังติดขัดปัญหาหลายประการ เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาตามที่สปริงนิวส์ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 สั่งเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา

20170418013358_l คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๓๐/๒๕๖๐

เรื่อง มาตรการเร่งรัดและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา

โดยที่มีความจําเป็นต้องพัฒนาระบบคมนาคมให้ก้าวหน้า ทันสมัย และสอดคล้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ของประเทศ โดยเฉพาะการขนส่งทางราง ซึ่งรวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๕ แต่การดําเนินการดังกล่าวยังมีปัญหาและอุปสรรคหลายประการ โดยเฉพาะข้อจํากัดตามกฎหมาย ซึ่งมีผลกระทบต่อการขับเคลื่อนโครงการและกรอบระยะเวลาการดําเนินการ และด้วยเหตุที่การดําเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงนี้เป็นการดําเนินการในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ซึ่งโดยสภาพของข้อเท็จจริงย่อมจําเป็นต้องยกเว้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบบางเรื่อง ในขณะที่จะต้องดําเนินการด้วยความรอบคอบรัดกุม โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และสามารถเร่งรัดการดําเนินโครงการให้แล้วเสร็จได้โดยเร็ว จึงจําเป็นต้องกําหนดขั้นตอนและหลักเกณฑ์วิธีการไว้เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้ใช้บริการ รวมทั้งเป็นการรักษาประโยชน์ของรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูประบบคมนาคมของประเทศนําไปสู่การพัฒนาโครงข่ายรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจ ยกระดับศักยภาพการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำตามยุทธศาสตร์ของประเทศ

785865-01             การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 18


อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๖๕ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคําสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ในคําสั่งนี้“คณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน” หมายความว่าคณะกรรมการบริหารร่วมฝ่ายไทย เพื่อกํากับดูแลการดําเนินการ ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย   พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๕

“โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา” หมายความว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา ที่ดําเนินการตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟของประเทศไทยในกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๕

560000000289701

ข้อ ๒ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยทําสัญญาจ้างรัฐวิสาหกิจซึ่งเป็นตัวแทนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่มีประสบการณ์ตรงด้านการพัฒนารถไฟความเร็วสูงที่ได้รับการรับรองคุณภาพและประสิทธิภาพจาก National Development and Reform Commission แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อดําเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา ดังต่อไปนี้
(๑) งานออกแบบรายละเอียดโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา
(๒) งานที่ปรึกษาควบคุมงานการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านโยธา
(๓) งานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากรรัฐวิสาหกิจตามวรรคหนึ่งและบุคลากรของรัฐวิสาหกิจนั้นทั้งที่เป็นบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลหากต้องดําเนินการในลักษณะของการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมหรือวิชาชีพสถาปัตยกรรม ให้ได้รับยกเว้นไม่อยู่ในบังคับมาตรา ๔๕ มาตรา ๔๗ และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ. ๒๕๔๒ และมาตรา ๔๕ มาตรา ๔๗ และมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. ๒๕๔๓ และเพื่อประโยชน์ในการควบคุมคุณภาพและประสิทธิภาพ ให้กระทรวงคมนาคมประสานให้สภาวิศวกรและสภาสถาปนิกจัดให้มีหลักสูตรฝึกอบรมและทดสอบแก่บุคลากรดังกล่าวตามความเหมาะสม


785865-02 การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 18


ในการกําหนดมูลค่าโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา ค่าจ้าง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง การจัดทําร่างสัญญาจ้างและเงื่อนไขอื่นในการทําสัญญาจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยใช้ผลการเจรจาต่อรองของคณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และผลประชุมของคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน มาเป็นกรอบในการพิจารณา โดยจะต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่คําสั่งนี้มีผลใช้บังคับทั้งนี้ ให้วงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติสําหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา ถือเป็นราคากลางตามมาตรา ๑๐๓/๗ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๔

ในกรณีที่ไม่อาจดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาตามวรรคสาม ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรายงานผลการดําเนินการ รวมทั้งสาเหตุของความล่าช้าไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณา ในการนี้ นายกรัฐมนตรีอาจพิจารณาขยายระยะเวลาออกไปได้อีกตามที่เห็นสมควร

หากนายกรัฐมนตรีไม่พิจารณาให้มีการขยายระยะเวลาออกไปตามวรรคสี่ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยยุติการดําเนินการ และให้กระทรวงคมนาคมรายงานผลการดําเนินการไปยังคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป

การดําเนินการตามข้อนี้ ให้คํานึงถึงประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการ ประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการดําเนินกิจการและการใช้ทรัพยากรของรัฐ ทั้งนี้ ให้นําหลักเกณฑ์ วิธีการ และแนวทางในการใช้ระบบข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ มาใช้กับการดําเนินการด้วย

785865-03

การประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 18


ข้อ ๓ ในการดําเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพ – นครราชสีมา และการทําสัญญาจ้างตามข้อ ๒ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบดังต่อไปนี้

(๑) กฎหมายว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดหาผู้ประกอบการและการเสนอราคา
(๒) กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ
(๓) คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๑/๒๕๖๐ เรื่อง การกํากับการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๐
(๔) ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
(๕) ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีวาด่ ้วยการพัสดุด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. ๒๕๔๙
(๖) ระเบียบการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าด้วยการจ้าง พ.ศ. ๒๕๔๔
(๗) ระเบียบการรถไฟแห่งประเทศไทยว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๔๔

ข้อ ๔ เมื่อการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดทําร่างสัญญาจ้างตามข้อ ๒ วรรคสาม เสร็จแล้วให้การรถไฟแห่งประเทศไทยส่งข้อตกลงการจ้างและร่างสัญญาจ้างให้รัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดพิจารณาเห็นชอบก่อนส่งให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณา โดยให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาจ้างให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับร่างสัญญาจ้าง และเมื่อสํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาร่างสัญญาจ้างเสร็จแล้ว ให้กระทรวงเจ้าสังกัดนําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบกับร่างสัญญาจ้างตามวรรคหนึ่ง ให้ส่งเรื่องคืนไปยังรัฐมนตรีกระทรวงเจ้าสังกัดเพื่อพิจารณาทบทวนและเสนอความเห็นประกอบเรื่องทั้งหมดต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมร่างสัญญาจ้าง ให้ส่งร่างสัญญาจ้างให้สํานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณาก่อนนําเสนอคณะรัฐมนตรีด้วย โดยให้นําความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับโดยอนุโลม

เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยลงนามในสัญญาจ้างต่อไป

hispeedtrain-768x577_main

ข้อ ๕ ในกรณีที่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการดําเนินงานตามคําสั่งนี้และการรถไฟแห่งประเทศไทยไม่สามารถหาข้อยุติได้ ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรายงานปัญหาหรืออุปสรรคดังกล่าวให้คณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน เพื่อพิจารณาหาข้อยุติต่อไป

หากคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ไม่อาจหาข้อยุติได้ ให้ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีนเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อวินิจฉัยปัญหาหรือสั่งการตามสมควร

ข้อ ๖ ในกรณีเห็นสมควรหรือมีปัญหาขัดข้องในการดําเนินการ หรือกรณีมีข้อจํากัดทางกฎหมายอื่นใด นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคําสั่งนี้ได้

ข้อ ๗ คําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๑๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

messageImage_1497541333473 messageImage_1497541362792 messageImage_1497541378576 messageImage_1497541392866