เอ็ม บี เค กรุ๊ป ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก สำนักจัดการกากของเสียและอันตราย กรมควบคุมมลพิษ และกองส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดเวิร์คช็อปให้เยาวชนและชุมชนในย่านปทุมวัน “ชื่อกิจกรรม 'Transform to Use: DIY ขยะถอดรูป” พร้อมส่งมอบถังแยกขยะที่มีดีไซน์และลูกเล่นให้กับโรงเรียนในเขตปทุมวัน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้เด็กๆ แยกขยะอย่างถูกต้อง
นางสาวศิรฐา สุขสว่าง ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายการตลาด บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่าการลดขยะจากต้นเหตุเป็นวิธีการที่แก้ปัญหาที่ยั่งยืน จึงมุ่งเน้นการกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมตามหลักการ 3R ลดการผลิตขยะ นำกลับมาแปรรูปใช้ใหม่และแยกเพื่อนำเข้าระบบรีไซเคิล ล่าสุดได้ร่วมมือกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก สำนักจัดการกากของเสียและอันตราย กรมควบคุมมลพิษ และกองส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จัดเวิร์คช็อปให้เยาวชนและชุมชนในย่านปทุมวัน “ชื่อกิจกรรม "Transform to Use: DIY ขยะถอดรูป” ด้วยการเชิญชุมชนและเยาวชนมาร่วมประดิษฐ์ถังขยะจากแผงไข่ต้องการกระตุ้นพฤติกรรมการแยกขยะของเด็กๆ ให้กับโรงเรียนในเขตปทุมวันที่มีความขาดแคลนถังขยะที่สามารถแยกขยะแต่ละประเภท ได้แก่ โรงเรียนวัดดวงแข และโรงเรียนวัดสระบัว รวมถึงเป็นการบ่มเพาะนิสัยการคัดแยกขยะให้ฝังลงใน DNA ตั้งแต่เป็นเยาวชน พร้อมกับมอบถังแยกขยะที่ทำขึ้นพิเศษและใส่ลูกเล่นสนุกๆ ให้แก่โรงเรียนในเขตปทุมวัน
“นอกจากปลูกฝังจิตสำนึกชุมชนผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นแล้ว เอ็ม บี เค กรุ๊ป ยังส่งเสริมให้พนักงานภายในองค์กรได้มีส่วนร่วมในการลดปัญหาขยะด้วย อาทิ กิจกรรม ‘ซุกสุขสิ้นเดือน’ แลกของที่นำไปรีไซเคิลได้เป็นของกินของใช้เพื่อสร้างนิสัยให้พนักงานรู้จักคัดแยกขยะและเห็นคุณค่าของสิ่งของเหลือใช้ ทั้งนี้ เรายังมีโครงการเพื่อสังคมต่อเนื่องที่จะเปลี่ยนขยะเป็นของมีค่าสำหรับผู้ด้อยโอกาส บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตลอดทั้งปีนี้จะมีส่วนช่วยทำให้คนทั่วไปเห็นว่าขยะไร้ค่าก็สามารถนำไปยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ด้อยโอกาสได้เช่นกัน”
ด้านนายบรรพต อมราภิบาล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและเผยแพร่ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กล่าวเพิ่มเติมว่า “ปัญหาขยะ เป็นปัญหาของชาติที่เราทุกคนช่วยกันแก้ไขได้ แต่การแก้ไขให้ได้อย่างยั่งยืนนั้น ทำได้ด้วยการสร้างจิตสำนึกที่ดี เพียงเปลี่ยนวิธีคิด โดยเริ่มต้นที่ ‘คิดก่อนทิ้ง’ จากนั้นจึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคด้วยการใช้ให้น้อย แล้วจึงแยกเพื่อนำมาใช้ใหม่และรีไซเคิล ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดการผลิตใหม่อันส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจกไปด้วย โดยเราสามารถแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ออกจากขยะมูลฝอยทั่วไป เช่น กระดาษ พลาสติก แก้ว โลหะ และนำวัสดุอย่าง ถุงพลาสติก ขวดแก้ว กลับมาใช้ซ้ำ หากทุกคนร่วมมือกันก็จะเป็นแนวทางลดขยะอย่างยั่งยืน”
นายสุเมธา วิเชียรเพชร ผู้อำนวยการสำนักจัดการกากของเสียและอันตราย กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า “ปัจจุบันมีปริมาณของเสียอันตรายจากชุมชนกว่า 5 แสนตันต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่พบในเขตชุมชนเมือง และมากกว่าครึ่งเป็นซากเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แต่เนื่องจากอัตราการกำจัดอย่างถูกวิธียังคงต่ำ จึงก่อให้เกิดการปนเปื้อนของสารพิษสู่สิ่งแวดล้อม กระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ทางกรมควบคุมมลพิษจึงร่วมมือกับภาคเอกชนจัดทำโครงการจัดการของเสียอันตรายจากชุมชนให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อแก้ไขปัญหาการปนเปื้อนมลพิษในสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน พร้อมให้ความรู้ภาคประชาชนถึงชนิดของขยะอันตรายและการคัดแยกอย่างถูกต้อง ซึ่งสิ่งที่ประชาชนเริ่มทำได้อย่างง่ายที่สุดก็คือการคัดแยกขยะเหล่านี้ออกจากขยะมูลฝอยอื่น ๆ แล้วนำส่งเข้าระบบกำจัดที่ถูกต้องเป็นขั้นตอนต่อไป"