แบรนด์ HAPPYLIFE FARMเผยกลยุทธ์สร้างรายได้จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อยอดสู่ผลไม้ และผักแปรรูป ชูจุดเด่นความเป็นเกษตรอินทรีย์ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมปรับกลยุทธ์สู่ OEM สร้างผลกำไร แย้มเตรียมขยายตลาดสู่ออสเตรเลีย เชื่อปีนี้รายได้โต 20%
นางกมลวัน จันทร์พยอม รองประธานวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์อาหารตำบลสระพัฒนา ผู้ผลิตและจำหน่ายเห็ดแปรรูปภายใต้ชื่อ "HAPPYLIFE FARM"เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปีนี้ได้มีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ไปสู่การทำผลไม้อบแห้งตรา "สุขใจ" ซึ่งเป็นการนำผลผลิตของเกษตรกรที่เป็นเกษตรอินทรีย์มาแปรรูปตั้งแต่กระบวนการปลูกจนถึงกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง มะเฟือง ฝรั่ง มะละกอ เป็นต้น โดยทำตลาดมุ่งเน้นการเป็นผลิตภัณฑ์ออกแกนิค และพัฒนาตลาดโดยกลุ่มผู้บริหารสามพรานหรือสามพรานโมเดล
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ในส่วนของผักเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นผักอบกรอบ ข้าวเกรียบผักผสมงา โดยทุกผลิตภัณฑ์จะมีจุดเด่นของการเป็นเกษตรอินทรีย์เช่นเดียวกัน ขณะที่ในส่วนของผลิตภัณฑ์เดิมก็จะมีการพัฒนาคุณภาพด้วยนวัตกรรมเพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของน้ำมันในผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะช่วยขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มผู้รักสุขภาพได้มากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ยังได้มีการปรับกลยุทธ์ไปสู่การเป็นผู้รับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์อื่นอย่างเป็นรูปธรรม เนื่องจากมองว่าเป็นช่องทางในการสร้างรายได้ที่ยุ่งยาก รวมถึงไม่ต้องมีต้นทุนมาก และขั้นตอนที่ยุ่งยากในการนำผลิตภัณฑ์ไปทำตลาดสู่ผู้บริโภค ที่สำคัญยังเป็นรูปแบบธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้เป็นอย่างดี
ขณะที่ในส่วนของการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศนั้น ก็มีการปรับกลยุทธ์เช่นเดียวกัน หลังจากที่ผ่านมาได้มีการส่งสินค้าไปทำตลาดที่ประเทศจีน แต่ค่อนข้างจะมีปัญหาเรื่องของการชำระเงิน ซึ่งมีผลต่อการบริหารสภาพคล่อง ดังนั้นในปีที่ผ่านมาจึงหยุดการทำตลาดในส่วนดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้เล็งช่องทางการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปทำตลาดที่ประเทศออสเตรเลีย เมืองซิดนีย์ เนื่องจากมีผู้ที่รู้จักอยู่ที่เมืองดังกล่าว โดยล่าสุดได้มีการส่งผลิตภัณฑ์ไปทดลองตลาดแล้ว ซึ่งคาดว่าภายในปีนี้น่าจะนำผลิตภัณฑ์ไปวางจำหน่ายได้ โดยรูปแบบของการจำหน่ายจะเป็นการขายขาดให้กับผู้ที่สนใจจะนำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่าย เพื่อลดปัญหาความยุ่งยากในการทำธุรกิจ
นางกมลวัน กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์การต่อยอดผลิตภัณฑ์ และการปรับกลยุทธ์นาการทำธุรกิจดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้มีรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 20% จากในปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 12 ล้านบาท โดยปัจจัยที่ทำให้รายได้ของวิสาหกิจฯไม่สูงมากนัก เพราะไม่ได้นำผลิตภัณฑ์เข้าไปจำหน่ายในร้านโมเดิร์นเทรด เนื่องจากมีระยะเวลาในการชำระเงินที่ค่อนข้างนาน และจะต้องมีเงื่อนไขในการคืนสินค้าหากจำหน่ายไม่หมด ซึ่งปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของ HAPPYLIFE FARM จะมีวางจำหน่ายอยู่ที่มูลนิธิเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) เซ็นทรัลลาดพร้าว รวมถึงร้านเพื่อสุขภาพทั่วไป และบนเว็บไซต์
[caption id="attachment_155219" align="aligncenter" width="389"]
HAPPYLIFE FARM รุกต่อยอด-ปรับกลยุทธ์สู่OEMสร้างรายได้[/caption]
อนึ่ง ผลิตภัณฑ์เดิมภายใต้แบรนด์ HAPPYLIFE FARM ประกอบไปด้วย เห็ดทอด 2 รสชาติ ได้แก่ เห็ดสวรรค์ และเห็ดปรุงรสสมุนไพร ,ข้าวเกรียบเห็ดโคนญี่ปุ่น 3 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินอล หรือดั้งเดิม ,รสบาร์บีคิว และรสสาหร่ายวาซาบิ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การมีเห็ดเป็นส่วนประกอบประมาณ 70% ของข้าวเกรียบ
นอกจากนี้ ยังมีน้ำเห็ดหลินจือ 3 รสชาติ ได้แก่ รสน้ำผึ้ง ,รสน้ำผึ้ง (ไม่เติมน้ำตาล) โดยเหตุผลที่เลือกใช้น้ำผึ้งมาเป็นส่วนผสมนั้น เพราะมีคุณสมบัติที่เรียกว่าเข้ากระษัยกัน ทำให้ผู้ที่ดื่มรู้สึกได้ถึงผลลัพธ์ที่ดีต่อร่างกาย และรสเก๊กฮวย อีกทั้งยังมีน้ำพริกเห็ดสามอย่าง และแหนมเห็ด เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,266 วันที่ 1- 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560