ดีเจกบร้อง"ป."โดนเเฟนเก๋าตุ๋น

16 พ.ค. 2560 | 09:53 น.
อัปเดตล่าสุด :16 พ.ค. 2560 | 16:53 น.
วันนี้ (16 พ.ค. 60) - ผู้สื่อข่าวรายงานจากกองปราบปรามว่า น.ส.นวพร เต่าทอง หรือ ดีเจกบ พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 10 ราย เข้าพบ พ.ต.อ.ชาคริต สวัสดี รอง ผบก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสหรัฐ เวโรจน์ อดีตแฟนหนุ่ม หลังชักชวนให้ลงทุนธุรกิจการพนันออนไลน์ มีผู้เสียหาย 8 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท

น.ส.นวพร ให้การว่า เมื่อต้นปีที่แล้วได้รู้จักกับ นายสหรัฐผ่านทางเฟซบุ๊ค จากนั้นก็คบหากันเป็นแฟน ขณะที่คบกันประมาณ 2 เดือนแรก นายสหรัฐเริ่มชักชวนให้ตนร่วมลงทุนธุรกิจของบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในต่างประเทศ ในลักษณะการบริจาคเงินแล้วได้รับผลตอบแทนสูง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่นายสหรัฐไม่ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจดังกล่าวชัดเจนมากนัก ด้วยความไว้ใจตนจึงได้ลงทุน 2 แสนบาท แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินกำไรแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหลังจากที่เลิกรากันไปก็มาทราบจากเพื่อนๆของตนว่าได้ถูกนายสหรัฐชักชวนให้ร่วมลงทุนด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งบางคนเสียหายตั้งแต่หลักแสนจนถึงหลักล้านบาท จากนั้นเมื่อตนพยายามสอบถามไปนายสหรัฐก็เงียบหายไม่ตอบกลับจนถึงตอนนี้

ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 40 ปี นักธุรกิจรีไซเคิลขยะ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้รับการแนะนำจากเพื่อนว่ามีบริษัท SWE smart wealth club จัดสัมมนาการลงทุนทางเว็บไซต์ จึงเข้าไปดูรายละเอียดและศึกษาลักษณะการลงทุนของบริษัทดังกล่าว เมื่อเห็นว่าน่าสนใจจึงเข้าร่วมฟังการอบรมที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เมื่อไปถึงก็ได้รับการชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจการพนันออนไลน์กับบริษัทแห่งหนึ่งที่อยู่ในประเทศบัลแกเรีย โดยอ้างว่าจะได้เปอร์เซ็นต์ตามจำนวนที่ลงทุน ตนจึงทดลองลงทุนไป 1 แสนบาท ได้เงินปันผล 10,000 บาทต่อเดือน เมื่อเห็นว่าได้กำไรดี จึงนำเงินมาลงทุนเพิ่มอีก 1 ล้านบาท

"ช่วงหลังไม่จ่ายเงินปันผลตามที่กล่าวอ้าง เมื่อขอถอนเงินที่ลงทุนไปทั้งหมดคืนเขากลับผัดผ่อนและบอกว่าจะย้ายเงินลงทุนไปอีกบริษัทหนึ่ง กระทั่งติดต่อไม่ได้ จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว กระทั่งมาทราบว่ามีผู้ถูกหลอกลวงหลายรายจึงรวมตัวกันมาแจ้งความดังกล่าว อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนผู้ที่จะร่วมลงทุนกับบริษัทดังกล่าวขณะนี้ทราบมาว่ามีอดีตผู้บริหารของบริษัทยูฟันฯ เข้ามาร่วมบริหารอีกด้วย" น.ส.เอ (นามสมมติ) กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ชาคริต กล่าวว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งหมดไว้ ก่อนประสาน ดีเอสไอเพื่อดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามอยากฝากประชาชนว่าหากเจอการชักชวนลักษณะดังกล่าวโดยใช้ผลกำไรมาชักจูงอย่าได้หลงเชื่อเนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการหลอกลวง ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดถูกหลอกลวงลักษณะดังกล่าวให้เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมที่กองปราบปรามได้ตลอดเวลา