ปิด6พันเว็บไซต์ไม่เหมาะสม
กสทช.ร่วมกับสมาคมอินเทอร์เน็ตประเทศไทย เปิดโต๊ะแถลงข่าวความคืบหน้าปิดเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมจำนวน 6300 เว็บไซต์ จากทั้งหมด 6,900 เว็บไซต์ ชี้พบเว็บเกี่ยวกับความมั่นคง การพนัน และ เว็บโป๊ มากสุด ชงหนังสือถึงเฟซบุ๊ก ขอความร่วมมือปิดกั้นเพจเนื้อหาไม่เหมาะสม-ผิดกฏหมาย
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสทช.(คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ร่วมกับสมาคมผุ้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย หรือ ISP ได้แถลงผลความคืบหน้าการดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติหรือ กสทช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการปิดเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมตามที่ศาลตัดสินว่าผิดกฎหมาย 6,900 เว็บไซต์ ซึ่งสามารถดำเนินการปิดได้แล้ว 6,300 เว็บไซต์ ใช้เวลาดำเนินการปิดกว่า 3 ปี เหลืออีก 600 เว็บไซต์ ที่ต้องเข้ารหัสจากต่างประเทศ
ซึ่งผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในไทยได้ส่งหนังสือไปยังผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศเพื่อขอเข้ารหัสดึงเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมและผิดกฎหมายไทย คาดว่า จะดำเนินการปิดกั้นเว็บไซต์ แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ในภาพรวมผู้ให้บริการทุกรายให้ความร่วมมืออย่างดี ยกเว้นเฟซบุ๊กที่ไม่ยอมดำเนินการตามคำสั่งศาลให้ปิดเพจไม่เหมาะสมขณะนี้ได้ประสานไปอีกครั้งคาดว่าจะได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการเฟซบุ๊ก โดยการปิดทำได้เพียงเว็บเพจ หรือ URLเท่านั้น ไม่สามารถดำเนินการปิดได้ทั้งหมด เนื่องจากเกินอำนาจหน้าที่ของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตเช่นเดียวกับเว็บเพจสายดาร์กที่ไม่ระบุตัวตนไม่สามารถปิดเพจได้เช่นกันยกเว้นมีคำสั่งศาล
ขณะที่ นางมรกต กุลธรรมโยธิน นายกสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทย (ISP)เปิดเผยว่า บรรดาสมาชิกสมาคมได้นำเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสมลงจากอินเตอร์เน็ตแล้ว 6,300 เว็บไซต์หลังมีคำสั่งศาล คงเหลืออีกจำนวน 600 เว็บไซต์ที่เข้ารหัสไว้ ทางสมาคมจึงได้ทำหนังสือไปยังผู้ให้บริการเว็บไซต์ดังกล่าวเพื่อให้ปิดกั้นเว็บไซต์และให้ยื่นหนังสือชี้แจงการดำเนินงานต่อ กสทช.เพื่อให้ทราบว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง
อย่างไรก็ตาม นางมรกตกล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมไม่ได้มีอำนาจในการกลั่นกรองเนื้อหาต้องทำตามคำสั่งของศาล ส่วนเว็บไซต์ที่ปิดรองลงมา คือ เว็บไซต์ฟิซซิ่ง และยืนยันว่าไม่ปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นของประชาชนในเฟซบุ๊ก และ ยูทูบ
“สำนักงาน กสทช.ดำเนินการในภาพใหญ่ทั้งหมดทั้งในเรื่องของการใช้งานอินเตอร์เน็ต และโซเชียลเน็ตเวิร์ก ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเฟซบุ๊ก ส่วนการมอนิเตอร์เนื้อหานั้นจะมาจากทั้ง 2 ส่วนคือ กสทช. และผู้ประกอบการไอเอสพี” นางมรกต กล่าว
นอกจากนี้แล้วทางสมาคมผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตไทยจะเร่งทำหนังสือถึงต่างประเทศขอความร่วมมือนำเว็บที่เข้ารหัสอีก 600 เว็บไซต์ เนื่องจากผู้ให้บริการในต่างประเทศตั้งรหัสเว็บไซต์ไว้ทำให้สมาคมดำเนินการได้ล่าช้าเชื่อว่าภายในสัปดาห์หน้าจะปิดกั้นได้ทั้งหมด
ด้านนางสาวศุภสรณ์ รุ่งโรจน์วุฒิกุล ตัวแทนจากสมาคมไอเอสพี กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าสมาคมได้ทำหนังสือให้กับผู้ให้บริการคอนเทนต์ที่อยูในต่างประเทศ รวมถึงเฟซบุ๊กที่ได้ส่งหนังสือไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเพื่อขอให้ทางเฟซบุ๊กปิดกั้นเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือผิดกฎหมายของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอทางเฟซบุ๊กตอบกลับมาและเชื่อว่าเฟซบุ๊กจะให้ความร่วมมือ
อย่างไรก็ตาม ศาลได้มีคำสั่งให้ปิดเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมจำนวน 6,900 เว็บไซต์ซึ่งอันดับแรกนั้นเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับความมั่นคง รองลงมาเป็นเว็บไซต์เรื่องการพนัน เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาอนาจาร หรือเว็บไซต์ที่เผยแพร่ภาพโป๊ และเว็บไซต์หลอกลวงฉ้อโกง เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,259 วันที่ 7 - 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2560