แนวโน้มราคาทองคำวันพรุ่งนี้(24 มี.ค.60)
สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 23 มีนาคม 2560
สภาวะตลาดวันที่ 23 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,243.82-1,248.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,500 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 23/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 24 มีนาคม 2560
ผู้ก่อการร้ายเลือกที่จะโจมตีที่ใจกลางเมืองหลวงของอังกฤษ โดยขับรถพุ่งชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งเข้าชนรั้วนอกรัฐสภาจนมีผู้เสียชีวิต 5 รายและบาดเจ็บประมาณ 40 รายในกรุงลอนดอน เหตุการณ์โจมตีนี้ถือเป็นเหตุการณ์โจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในกรุงลอนดอนในรอบหลายปี แนวโน้มการก่อการร้ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้ น่าสนใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มส่งสัญญาณให้ประชาชนและนักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ปรับสูงขึ้น แนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อลดน้อยลง โดยเฟดได้ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะไม่พยายามสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับ 2.0% ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาสาขาชิคาโก กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า "ระดับ 2% ไม่ใช่ระดับเพดาน" ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อ แม้ว่าราคาทองคำจะมีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ประกอบกับ แนวโน้มสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงกดดันจากคาดการณ์ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปของเฟดจะเป็นไปอย่างช้าๆ ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส สนับสนุนว่าเฟดควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และควรวางแผนสำหรับการปรับลดขนาดงบดุลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาว่าเฟดจะปรับเปลี่ยนท่าทีมากน้อยเพียงใด หากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายเป็นเวลานาน ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,243-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,243 (20,350บาท) 1,235 (20,250บาท) 1,226 (20,100บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,700บาท) 1,272 (20,850บาท) 1,280 (21,000บาท)
กราฟราคาทองคำ
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
สภาวะตลาดวันที่ 23 มีนาคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,243.82-1,248.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,500 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.32 น.ของวันที่ 23/03/2560)
แนวโน้มวันที่ 24 มีนาคม 2560
ผู้ก่อการร้ายเลือกที่จะโจมตีที่ใจกลางเมืองหลวงของอังกฤษ โดยขับรถพุ่งชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งเข้าชนรั้วนอกรัฐสภาจนมีผู้เสียชีวิต 5 รายและบาดเจ็บประมาณ 40 รายในกรุงลอนดอน เหตุการณ์โจมตีนี้ถือเป็นเหตุการณ์โจมตีที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในกรุงลอนดอนในรอบหลายปี แนวโน้มการก่อการร้ายที่เพิ่มสูงขึ้นได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะที่ทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถชนะเงินเฟ้อได้ น่าสนใจในการลงทุนเพิ่มมากขึ้น เมื่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มส่งสัญญาณให้ประชาชนและนักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับอัตราเงินเฟ้อสหรัฐที่ปรับสูงขึ้น แนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อลดน้อยลง โดยเฟดได้ส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะไม่พยายามสกัดกั้นอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับ 2.0% ขณะที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาสาขาชิคาโก กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า "ระดับ 2% ไม่ใช่ระดับเพดาน" ประเด็นดังกล่าวทำให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อ แม้ว่าราคาทองคำจะมีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก ประกอบกับ แนวโน้มสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงกดดันจากคาดการณ์ว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อๆไปของเฟดจะเป็นไปอย่างช้าๆ ทั้งนี้ นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส สนับสนุนว่าเฟดควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ และควรวางแผนสำหรับการปรับลดขนาดงบดุลลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาว่าเฟดจะปรับเปลี่ยนท่าทีมากน้อยเพียงใด หากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายเป็นเวลานาน ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา แนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,243-1,235 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,263 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,243 (20,350บาท) 1,235 (20,250บาท) 1,226 (20,100บาท)
แนวต้าน 1,263 (20,700บาท) 1,272 (20,850บาท) 1,280 (21,000บาท)
กราฟราคาทองคำ
