สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง วันที่ 22 พฤศจิกายน 2559
สภาวะตลาดวันที่ 22 พฤศจิกายน 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,213.25-1,221.06 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 20,450 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,450 บาทต่อบาททองคำ
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.14 น.ของวันที่ 22/11/16)
แนวโน้มวันที่ 23 พฤศจิกายน 2559
ความกังวลว่าสหรัฐอาจจะยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีประเด็นดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีการเปิดเผยว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ร่างแผนการสำหรับการเข้าดำรงตำแหน่งวันแรก ซึ่งรวมถึงการประกาศอย่างเป็นทางการถึงเจตนารมณ์ของสหรัฐที่จะถอนตัวออกจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 12 ประเทศ ได้กระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานสินทรัพย์ปลอดภัย และ กระตุ้นนักลงทุนขายทำกำไรดอลลาร์ออกมาท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงมากขึ้นจากนโยบายกีดกันทางการค้า แต่การขยับขึ้นค่อนข้างจำกัด หลังจากตลาดหุ้นในหลายประเทศยังคงพุ่งขึ้นอย่างมากตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังจากราคาน้ำมันดิบน้ำมันพุ่งขึ้น 4% มาที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่การประชุมโอเปกนอกรอบวันแรก สมาชิกเห็นด้วยกับแนวทางการลดกำลังการผลิตน้ำมัน ซึ่งจะมีการหารือนอกรอบอีกเพื่อหาข้อสรุปนำเสนอต่อที่ประชุมโอเปกในวันที่ 30 พฤศจิกายน กลายเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และ ปิโตรเคมี ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองในช่วง 3 เดือน และ 6 เดือนข้างหน้าลงสู่ระดับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้น สำหรับมุมมองของวายแอลจีที่มีต่อราคาทองคำนั้น ประเมินว่าหากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,221-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถผ่านไปได้ ทำให้ราคาเกิดการอ่อนตัวลง แต่หากการอ่อนตัวของราคาทองคำยังคงสามารถยืนเหนือโซนบริเวณ 1,203-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาทองคำยังมีโอกาสทดสอบแนวต้าน ซึ่งการแกว่งตัวของราคาทองคำยังถือเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะสั้นเข้าซื้อเก็งกำไร
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,203-1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในระยะสั้นเพื่อสะสมกำลังแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,221-1,233 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,200 (20,100บาท) 1,194 (20,000บาท) 1,185 (19,850บาท)
แนวต้าน 1,221 (20,460บาท) 1,233 (20,660บาท) 1,241 (20,790บาท)
ที่มา:บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
กราฟราคาทองคำ