บีโอไอนำเอสเอ็มอีไทยต่อยอดการลงทุนภาคอีสาน-สปป.ลาว

17 พ.ย. 2559 | 08:32 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

บีโอไอนำคณะเอสเอ็มอีไทยเดินสายเยี่ยมชมกิจการของผู้ผลิตรายใหญ่ในภาคอีสาน ครอบคลุมพื้นที่ 6 จังหวัด ทั้งกิจการผลิตยางรถยนต์ กิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวภาพ และกิจการผลิตภัณฑ์เกษตรและเกษตรแปรรูป เยี่ยมชมโรงงานผลิตสารให้ความหวานสกัดจากหญ้าหวานหลังพบความต้องการในตลาดสูงขึ้นพร้อมชมศักยภาพการผลิตกาแฟรายใหญ่ และตลาดชายแดนไทย-ลาว หวังกระตุ้นร่วมมือการค้าการลงทุน 2 ประเทศ

นายเจษฎา ศรศึก ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาปัจจัยสนับสนุนการลงทุน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 19-23 ธันวาคม 2559 บีโอไอกำหนดจัดกิจกรรมชักจูงการลงทุนภายในประเทศขึ้นโดยนำคณะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) เดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน และหารือร่วมกับผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ดำเนินกิจการในพื้นที่ 6 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  ได้แก่ สระบุรี สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น นครราชสีมา  รวมถึงเยี่ยมชมโรงงานผลิตกาแฟรายใหญ่ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ทั้งนี้เอสเอ็มอีจะได้เข้าเยี่ยมชมกระบวนการผลิตของกิจการที่น่าสนใจ อาทิ  กิจการผลิตยางรถยนต์จากผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับโลก ที่ตั้งโรงงานในพื้นที่จังหวัดสระบุรี   กิจการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ที่จังหวัดขอนแก่น  กิจการผลิตไฟฟ้าพลังงานชีวภาพ ที่จังหวัดศรีสะเกษ

รวมถึงร่วมศึกษาดูงานกิจการผลิตผลิตภัณฑ์เกษตรและเกษตรแปรรูป ซึ่งนอกจากการเยี่ยมชมกิจการผลิตไก่สดแปรรูป ที่จังหวัดอุบลราชธานีแล้ว ยังจะได้เข้าชมกิจการผลิตสารให้ความหวานสกัดจากหญ้าหวาน ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งสารให้ความหวานสกัดจากหญ้าหวานนั้นมีคุณสมบัติพิเศษ เนื่องจากมีความหวานกว่าน้ำตาล100-300 เท่าสามารถใช้แทนน้ำตาลในผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือโรคไขมันในเส้นเลือดสูง และไม่ทำให้อ้วนปัจจุบันการผลิตสารดังกล่าวเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปีอย่างไรก็ตามยังมีผู้ผลิตในประเทศไทยจำนวนน้อยเพียง 2 รายเท่านั้น

“บีโอไอได้จัดกิจกรรมในรูปแบบของการนำคณะเอสเอ็มอีกลุ่มต่างๆ ไปศึกษาดูงานกิจการที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่อง  เพื่อให้เอสเอ็มอีได้พบหารือกับผู้ประกอบการรายใหญ่โดยตรง และจะได้นำความรู้และการถ่ายทอดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปพัฒนาศักยภาพในกระบวนการผลิตของตนเอง ให้สามารถรองรับทิศทางความต้องการของตลาดโลก รวมถึงให้ทันต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่การใช้เทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งในที่สุดจะได้นำไปสู่โอกาสของการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงอุตสาหกรรมร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และเอสเอ็มอีในประเทศได้อีกด้วย” นายเจษฎากล่าว

นอกจากกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานในประเทศไทยแล้ว บีโอไอยังได้จัดกิจกรรมพิเศษนำคณะเอสเอ็มอีผ่านจุดข้ามแดนที่จังหวัดอุบลราชธานี  เพื่อเดินทางไปร่วมเยี่ยมชมกิจการโรงงานผลิตกาแฟรายใหญ่ที่ดำเนินกิจการในสปป.ลาว พร้อมทั้งสำรวจลู่ทางการลงทุนในพื้นที่ชายแดน ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นให้เอสเอ็มอีไทยเห็นถึงศักยภาพการทำธุรกิจร่วมกันของ 2 ประเทศได้ต่อไป