ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังอิหร่านกระตุ้นให้หลายประเทศร่วมมือในการคงกำลังการผลิต

04 ต.ค. 2559 | 02:30 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ต.ค. 2559 | 08:57 น.
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมันประจำวันที่ 4  ตุลาคม 2559

+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มสูงขึ้น หลังอิหร่านออกมากระตุ้นให้ประเทศนอกกลุ่มโอเปก (non-OPEC) ออกมาให้ความร่วมมือเกี่ยวกับข้อตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้มีบางประเทศในกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกตัดสินใจลดกำลังการผลิตลงอยู่ในช่วง 32.5-33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอิหร่านให้ความเห็นว่า หากหลายประเทศร่วมมือกันจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามปริมาณกำลังการผลิตที่จะปรับลดลงของแต่ละประเทศนั้น จะมีการตัดสินใจอีกครั้งในระหว่างการประชุมกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ย. นี้

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลง ส่งผลให้นักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นสามารถลงทุนในสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้าในสกุลเงินสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้น

+ นอกจากนี้ ตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 51.5 ซึ่งสูงกว่าเดือน ส.ค. ที่อยู่ระดับ 49.4 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 50.3 ซึ่งตัวเลขที่สูงกว่าระดับ 50 เป็นการบ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น

- อย่างไรก็ดี บริษัทน้ำมันแห่งชาติอิหร่าน (NIOC) เตรียมที่จะเซ็นสัญญาฉบับแรกเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซ Iran Petroleum Contract (IPC) ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการเพิ่มกำลังการผลิตให้ไปสู่ระดับ 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเคยเป็นระดับที่ผลิตก่อนที่จะถูกมาตรการคว่ำบาตร

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดในเอเชียได้รับแรงกดดันจากการปรับลดลงของราคาขายน้ำมันเบนซินในสหรัฐฯ (RBOB) หลังสัญญาการซื้อขายครบกำหนด อย่างไรก็ดี อุปทานมีแนวโน้มปรับลดลงเนื่องจากโรงกลั่นในมาเลเซียอยู่ระหว่างการตัดสินใจที่จะปิดซ่อมบำรุงในอนาคตอันใกล้ ส่งผลให้ผู้ซื้อจากสิงคโปร์มีความสนใจที่จะเข้ามากักตุนสินค้าไว้ล่วงหน้า

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคยังคงทรงตัวในระดับดีจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวและฤดูกาลประมงในเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากประเทศจีน

oil04 ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 45-51 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 46-52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

จับตาท่าทีของกลุ่มโอเปกและการเจรจาของผู้ผลิตในกลุ่มโอเปกกับผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซีย ภายหลังที่สามารถบรรลุข้อตกลงในการคงกำลังการผลิตไว้ที่ระดับ 32.5 - 33.0 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวและสัดส่วนโควตาจะมีการพิจารณาอีกครั้งในการประชุมโอเปกครั้งถัดไปในวันที่ 30 พ.ย.

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ปรับลดลงรวมทั้งสิ้นราว 23 ล้านบาร์เรลใน 4สัปดาห์ที่ผ่านมาอยู่ระดับ 502.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากปริมาณน้ำมันดิบนำเข้าสหรัฐฯ ปรับลดลงต่อเนื่อง

ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียและไนจีเรียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดลิเบียปรับเพิ่มกำลังการผลิตมาอยู่ที่ระดับ 0.48 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากระดับการผลิตในเดือนก่อนหน้าที่ประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังสามารถส่งออกน้ำมันดิบจากท่าเรือ Ras Lanuf ได้ในช่วงที่ผ่านมา

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์