เอสไอจี คอมบิบล็อค เดินหน้าต่อยอดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์

26 ก.ย. 2559 | 07:38 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ย. 2559 | 14:39 น.
บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค ประเทศไทย จำกัด ผู้นำระบบบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหาร เครื่องดื่มไม่อัดลมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมต่างๆ ย้ำภาพองค์กรห่วงใยสิ่งแวดล้ อมแถวหน้าของไทย หลังเข้ารับประกาศนียบัตรเชิดชู ผู้ประกอบการแบบอย่างที่ดี ในการบริหารจัดการและลดการปล่ อยก๊าซเรือนกระจก จากพลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรั พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในงาน “ร้อยดวงใจ ร่วมใจลดโลกร้อน” ประจำปี 2559 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยครั้งนี้นายนวพล  ชื่นศิริ ผู้อำนวยการสูงสุดฝ่ายบริ หารงานขายประจำภูมิภาคเอเชี ยแปซิฟิคใต้ ได้เผยว่า

food_0306_15b “บริษัท เอส ไอ จี คอมบิบล็อค ประเทศไทย จำกัด เป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกใต้ เราได้เล็งเห็นความสำคั ญของฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งเป็นฉลากที่จะแสดงข้อมูลด้ านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิ ตภัณฑ์นั้นๆ ให้แก่ผู้บริโภคได้ทราบ ซึ่งบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ เป็นกล่องบรรจุเครื่องดื่ มและอาหารเหลวแบบปลอดเชื้อ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “กล่องยูเอชที” กล่องยูเอชทีนี้จะมีส่วนประกอบที่เป็นกระดาษถึง 75% การใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษมีค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ต่ำกว่าและกา รติดฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์บนผลิ ตภัณฑ์นั้น ก็เพื่อเป็นส่วนหนึ่งให้ผู้บริโภคได้เปรียบเทียบพร้อมตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่บรรจุ ภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

filling_0109_12a_ ทั้งนี้ บริษัทฯ  ต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคม จึงได้มีการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาพัฒนากระบวนการผลิตในทุ กขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯมีการส่งเสริมการอนุรั กษ์สิ่งแวดล้อมและใช้ทรัพยากรที่ ยั่งยืน โดยการใช้กระดาษที่ได้รับรองตรา FSC (The Forest Stewardship Council)  ซึ่งเป็นการรับประกันว่าผลิตภั ณฑ์ไม้ได้มาจากป่าปลูกที่มี การจัดการอย่างถูกต้องและได้รั บการรับรองมาตรฐานการจัดการป่ าไม้อย่างยั่งยืนที่ได้รั บความเชื่อถือในระดับโลกไม่ใช่ จากป่าธรรมชาติ เพื่อทำให้บรรจุภัณฑ์ที่เราผลิ ตนั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ ได้มากที่สุด เพราะนี่คือเป้าหมายหลักด้านสิ่ งแวดล้อมขององค์กรเรา การรับประกาศนียบัตรครั้งนี้ถื อเป็นกำลังใจในการทำหน้าที่นี้ ต่อไป ด้วยความภาคภูมิใจ ที่พนักงานทุกคนจะได้มีส่วนผลั กดันให้เกิดสังคมสีเขียวแก่ ลูกค้าและผู้บริโภค เพื่อทุกคนจะได้เห็นความสำคั ญในการช่วยลดภาวะโลกร้อนร่วมกั นอย่างยั่งยืนต่อไป”