ไหว้พระพุทธอย่างถูกวิธี

17 ม.ค. 2567 | 20:30 น.

ไหว้พระพุทธอย่างถูกวิธี คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราชรามัญ

ต้องยอมรับกันว่าคนไทยเนี่ยมีความชื่นชอบในการสักการบูชา เป็นอย่างยิ่งไม่ว่าจะไหว้พระพุทธรูปไม่ว่าจะไหว้องค์เทพเทวดาทั้งหลาย แต่ในวันนี้ผมจะนำเรื่องราวที่เกี่ยวกับพระพุทธรูป ซึ่งเป็นการแสดงออกถึง อามิสบูชา โดยนำเครื่องสักการะต่างๆ เข้าไปสักการบูชาพระพุทธรูป

ผู้คนจำนวนไม่น้อยนิยม จุดธูปจุดเทียน แล้วก็นำเอาพวงมาลัยบ้าง นำเอาทองคำเปลวบ้างไปปิดที่พระพุทธรูป ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่ผิดหรือว่าเรื่องที่ถูก ก็กลายเป็นประเพณีนิยมในความเป็นศาสนาพุทธแบบไทยๆ ที่สืบทอดกันมาแบบเนิ่นนานแล้ว

ถ้าเราต้องการสักการบูชาพระพุทธรูป นั่นหมายความว่าเป็นรูปขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราควรปฏิบัติอย่างไร ขอแนะนำแบบนี้

เราใช้พวงมาลัย 1 พวง จะเป็นรูปแบบไหนพวงเล็ก พวงใหญ่สุดแท้แต่สะดวก จากนั้นให้เราพนมมือ ท่องนะโม 3 จบ ต่อด้วยบทไตรสรณะคม คือ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ, สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ จนจบครบ จากนั้นให้เราอธิษฐานจิต การอธิษฐานจิตมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสักการบูชาพระพุทธรูป และการอธิษฐานจิตที่เหมาะสมขอใช้คำว่าเหมาะสม ควรอธิษฐานดังนี้

พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์เป็นผู้ตรัสรู้ชอบโดยพระองค์เอง จบแล้วซึ่งกิเลสทั้งปวง พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงมี พระเมตตากรุณาอย่างสูงล้น เสียสละทุกสิ่งอย่าง เพื่อให้กระจ่างในธรรม แล้วทรงนำมาเผยแผ่ สอนสั่ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ในพระเมตตาของพระองค์ ขอน้อมระลึกนึกถึงองค์คุณของพระองค์ ขอความเป็นมงคลทั้งปวง ที่ประกอบไปด้วยธรรมอันยิ่ง เป็นมงคลแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญฯ 

ส่วนการกราบไหว้พระพุทธรูป แล้วอ้อนวอนขอนั้น เป็นเพียงคติความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากท้องถิ่น แล้วมีการขยายไปสู่ถิ่นอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็เป็นขวัญกำลังใจที่ดี สำหรับผู้ที่เป็นชาวพุทธ

บางคนก็มีคตินิยม เมื่อสิ่งที่ตัวเองกราบไหว้บนบานสำเร็จก็นำสิ่งของมาแก้บน บางที่ก็เป็นประทัด บางที่ก็เป็นไข่ต้ม บางที่ก็เป็นส้มตำก็สุดแท้แต่ความเชื่อ ของแต่ละพื้นถิ่น แต่ถึงอย่างไรก็ตามการกราบไหว้พระพุทธรูปที่ถูกต้อง ควรกราบไหว้ระลึกถึงในองค์คุณของพระพุทธเจ้ามากกว่าสิ่งอื่นใด

เพราะความมงคลทั้งปวงอยู่ที่กาย, วาจา, ใจ แต่ก็มีเรื่องแปลกเรื่องหนึ่ง พระพุทธรูปในบ้านเรา แม้จะเป็นรูปของพระพุทธเจ้าก็ตาม แต่เมื่ออยู่วัดหนึ่งก็มีนามหนึ่ง โดยเฉพาะ nickname ที่เรียกกัน เช่น หลวงพ่อแดง, หลวงพ่อดำ, หลวงพ่อเขียว, หลวงพ่อสำเร็จ เป็นต้น ทั้งที่ทุกๆ องค์นั้นก็คือรูปของพระพุทธเจ้า และนี่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ของความเป็นพุทธศาสนาแบบไทยๆ

การไหว้พระพุทธรูปไม่ว่าคุณ มีจุดประสงค์ในการไหว้ด้วยเหตุผลคนใดก็ตาม อย่างน้อย ก็เป็นสิ่งที่ดีงาม ที่จะทำให้คุณมีจิตใจที่สงบเบิกบานผ่องใสและยึดในบุญกุศลเป็นที่ตั้ง ดีกว่าหันไปหา อบายมุขทั้งปวง เพราะชีวิตของคนเรานั้น ตราบใดที่ยังอยู่ในรอยทำ อย่างเชื่อในพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพและสังฆานุภาพ ชีวิตย่อมมีความสงบร่มเย็นตามอัตภาพแห่งตน ซึ่งเป็นความสงบร่มเย็น แม้ผู้มีเงินร้อยล้านพันล้านถ้าจิตใจไม่สงบก็ไม่อาจพบความสุขชนิดนี้ได้

อีกประการหนึ่งผู้ที่ชอบนำเข้าถวายพระพุทธ หรือนำน้ำมาบูชาพระพุทธรูป สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่ความเชื่อในแต่ละถิ่น ถ้าเราไม่มีการถวายสิ่งใดเลยก็ไม่ผิด เพราะพระพุทธองค์ทรงนิพพานนานแล้ว แต่สิ่งที่คงเหลืออยู่ไว้ก็คือ พุทธานุภาพของพระพุทธองค์ นั้นแล