ประดิษฐ์โภชนา หมูป่า (สุกรไพร) ที่ถูกต้อง

25 ก.พ. 2566 | 05:29 น.

คอลัมน์อิ่ม_โอชาฯ โดย Joie de La Cuisine

ยามนี้ขออนุญาตคุณผู้อ่านแวะมาซ่อมสุขภาพล้างตับสักเล็กน้อยที่สถานพยาบาลในกรุงเทพฯ ก็ให้ระลึกถึงว่ายามนอนแกร่วอยู่นี้นั้นประดาอาหารจานวิเศษโภชนามันลอยมายั่วยวนในมโนสำนึก ยิ่งยามดึกลมเอื่อยพัดหวิวแล้วล่ะก็.. ใจจิตมันหวีดหวิวอยากจะหาของชิมยิ่งไปกว่าเสียงท้องไส้55
 
90 ปีมาแล้วที่ท่าน้ำหน้าอาคารที่ว่าการมณฑลปราจีนย้ายมาตั้งที่ฉะเชิงเทรา เยื้องมาทางซ้าย มีเรือนแถวไม้ริมน้ำให้บริการอาหารรสวิเศษฝีมือวิเสทพ่อครัวสำคัญอยู่เจ้าหนึ่ง ชื่อ ประดิษฐ์โภชนา ประดาขุนนาง ข้าหลวงมีระดับ ต่างใช้บริการกันมาแน่นขนัดต่อเนื่องยาวนาน
 
จานเด็ดสะระตี่ของเขาต้องยกให้ สุกรไพรผัดเผ็ด ซึ่งใช้หมูป่าแท้ๆ หนังกรุบกรอบเคี้ยวเพลินเนื้อนุ่มไม่มีเหนียว ผัดกับเครื่องแกงร้อนละมุนนวลเนียล ช่างครีมมี่หอมหวลอย่างมีบุคลิก และรสนิยม จานนี้เขาตัดรสด้วยมะเขือเทศสดลงไปผัดควงด้วย ใครจะว่าไม่มี ไม่ต้อง (ใส่) ก็เชิญลองไปชิมเขาดูก่อน พริกไทสดพวงๆมะกรูดฉีกใบ กินพร้อมกันไปกับหมูป่าแท้ ขนสามเส้นในหนึ่งรูขุมขน_บร้ะเเล้ว ร้อนชื่นเหงื่อซึม ต้องคดข้าวมาเติมพร้อมของขม/เย็นที่มีฟอง

ต้มยำกุ้งเขาใช้กุ้งแม่น้ำทำสดมันลอยฟ่องฟู ต้มกับเห็ดฟางตูมๆ ขบแตกในปากรสชาติเข้าที อย่างไรก็มิรู้ซี จังหวะ ผู้สื่อข่าวดิจิตอลจะเข้าพื้นที่สำรวจเขตเศรษฐกิจ EECi ถามมาว่า ฉะเชิงเทราสมควรไปร้านไหนฝากท้อง? ก็เรียน ธนทรัพย์ จามีกร ไปว่าประดิษฐ์น่ะซี ไปอัพเดตมาฝากท่านผู้อ่านให้ที เห็นท่านกรณ์ภัฐวีร์ รองอธิบดีคนเก่าแปดริ้ว ท่านส่งข่าวมาว่าฝีมือระดับประดิษฐ์ที่ถ่ายทอดมาสู่เจนเนอเรชั่นปัจจุบันนี้มาไม่มีผู้จะรับสืบทอดล่ะหนา ควรได้แวะไปอย่าให้เสีย


  
บรรทัดถัดไปนี้รุ่นใหม่รายงานความอร่อยมายังคุณผู้อ่าน :

“สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่เคารพ 
 
ร้านประดิษฐ์โภชนา ร้านอาหารเก่าแก่ที่เปิดมานานหลายสิบๆๆปี ตัวร้านอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ใกล้ศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทราหลังเก่า ร้านนี้มีเมนูเด็ดมากมาย ซึ่งเมนูแรกที่พลาดไม่ได้เลยก็คือ ห่อหมกปลาช่อน เด็ดถึงขนาดที่ว่า ต้องเขียนป้ายแปะในร้านว่า “ห่อหมกปลาช่อน รีบสั่ง” เพราะถ้าหากรีรอก็มีโอกาสที่เมนูนี้จะหมดได้โดยพลัน เพราะคนแถวนั้นมีทั้งที่จองและมีทั้งที่จรชอบเดินมาซื้อทีละหลายสิบห่อ ห่อหมกประดิษฐโภชนา ใช้ปลาช่อนสด (ห่อที่ผมชิมไม่มีก้าง) รองใบยอตามตำรับโบราณแล้วราดกะทิสดข้นมันก่อนกลัดใบตองนึ่ง หอม และนวลเนียลตามที่รุ่นใหญ่ร่ำลือไว้ถึงฝีมือเครื่องแกงตำเองของเขาจริงๆครับ
 
เมนูถัดมาที่ผมจะแนะนำคือ หมูทอดกระเทียม ที่ร้านนี้ใช้คอหมูทอดออกมาได้พอดิบพอดี หั่นชิ้นพอดีคำ กรอบนอกนุ่มใน หอมกลิ่นกระเทียมและพริกไทยแท้ฟุ้งไปหมด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ และซอสพริกรู้ตัวอีกทีก็ข้าวหมดจานซะแล้วว
 
ถัดมาคือของต้องกินคู่กันที่ผมอยากจะแนะนำในครั้งนี้ก็คือ ต้มยำกุ้ง และไข่เจียวปู หลายๆท่านอาจจะมองว่าเป็นเมนูธรรมดา แต่ขอบอกมา ณ ที่นี้เลยว่าร้านประดิษฐ์โภชนาทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม ต้มยำ เผ็ดร้อน เปรี้ยวเค็ม ตัดหวานนิดเดียวรสชาติคลาสสิกลงตัว ใช้กุ้งแม่น้ำตัวกำลังกินผ่าครึ่ง (ให้หลายตัว) ข้างไข่เจียว ก็กรอบหนาฟู ด้านในนุ่ม เนื้อปูเป็นชิ้นๆ รับรองว่าอร่อยไม่แพ้ไข่เจียวปูร้านดังแน่นอน อีกทั้งที่นี่ยังเสิร์ฟพร้อมกับซอสพริกโกศล ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าทานคู่กับไข่เจียวนั้นลงตัวสุดๆ


 
ในส่วน ของหวานวันนี้ที่นี่มีขนมด่างซึ่งหาทานยากมากใช้ข้าวท้องถิ่นมาทำนุ่มๆเด้งๆกินกับน้ำจิ้มสีดำกลิ่นหอมน้ำตาลไหม้และซีอิ้วถั่วเหลืองโรยกระเทียมเจียว
 
เมนูอื่นๆเขามีทั้งหมี่กรอบ แฮ่กึ๊น สลัดกุ้ง กุ้งพล่า กุ้งทอดซอสพริกไทย แกงส้มแกงไทย ปลาค้าวปลาอินทรีย์ กระบอกต้มส้ม มัจฉาสะอื้น ปูทะเล ออส่วน หอยอบ แต่งวดนี้กระผมรุ่นเล็กมีภารกิจทำงานต้องเร่งไปต่อจะสั่งมาเต็มโต๊ะอย่างทางรุ่นใหญ่ก็เกรงใจทั้งกระเป๋าตัวเองและเวลางาน ได้แต่หมายมั่นไว้ครั้งหน้าจะกลับมาทำรายงานส่งท่านผู้อ่านให้ครบครันครับ
 
อย่างไรก็ดี เพียงแค่โต๊ะเล็กวันนี้ ผมรับรองว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะประทับใจในรสชาติอาหารของร้านประดิษฐ์โภชนาอย่างแน่นอนครับ”

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ  ปีที่ 43 หน้า 18  ฉบับที่ 3,865 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ. 2566