Bully ปัญหาเรื้อรัง ที่กระทบร่างกาย-จิตใจ

18 พ.ค. 2567 | 09:07 น.

Bully ปัญหาเรื้อรัง ที่กระทบร่างกาย-จิตใจ : Tricks for Life

“Bully” หรือ การแกล้งกัน กลายเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมไทยที่พบบ่อยในเด็กที่มีการกระทำรุนแรงต่อกันทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น การล้อเลียน การตำหนิจุดด้อยของคนอื่นจนทำให้ผู้อื่นมีความรู้สึกแย่ การพูดจาใส่ร้ายคนอื่นจนทำให้คนอื่นเข้าใจผิด การกลั่นแกล้งทางโซเชียล ซึ่งสามารถเกิดขึ้นทุกที่ แต่มักจะพบมากที่สุด ในโรงเรียน ที่ทำงาน และสังคมออนไลน์

พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ใช่แค่เรื่องเล่นสนุกหรือการแกล้งกันทั่วไป หากปล่อยไว้จะส่งผลกระทบต่อทางร่างกายและจิตใจต่อผู้ที่ถูกกระทำจนอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า

Bully ปัญหาเรื้อรัง ที่กระทบร่างกาย-จิตใจ

“พญ.ณัฏฐพัชร์ ลำเลียงพล” จิตแพทย์โรงพยาบาล BMHH- Bangkok Mental Health Hospital กล่าวว่า การบูลลี่มี 4 รูปแบบ ได้แก่

1.การกลั่นแกล้งทางวาจา คือ การสื่อสาร เขียน เพื่อสื่อความหมายกลั่นแกล้ง เช่น ล้อเล่น, เรียกชื่อ, แสดงความคิดเห็นทางเพศที่ไม่เหมาะสม, เหน็บแนม และขู่ว่าจะทำอันตราย

2.การกลั่นแกล้งทางสังคม คือ วิธีการทำให้เสียหน้า หรือแกล้งให้สูญเสียความสัมพันธ์กับผู้อื่นอย่างตั้งใจ เช่น ขับเพื่อนออกจากกลุ่ม, กระจายข่าวลือให้เสียหาย, กีดกันไม่ให้เป็นเพื่อนกัน, ทำให้อับอายในที่สาธารณะ

3.การกลั่นแกล้งทางกายภาพ คือ การกลั่นแกล้งที่เกี่ยวข้องกับร่างกายและสวัสดิภาพของผู้ถูกกลั่นแกล้ง เช่น การทุบตี ทำร้าย ทำให้สะดุด แย่งสิ่งของ แสดงออกทำท่าทางหยาบคายใส่

4.การกลั่นแกล้งทางสื่อออนไลน์ (Cyber Bullying) เป็นหนึ่งในการกลั่นแกล้งที่มีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก สามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนผู้กระทำ ซึ่งจะทำร้ายเหยื่อผ่านช่องทางโลกออนไลน์ต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม อีเมล เป็นต้น

เด็กที่ถูกกลั่นแกล้ง จะมีอาการผิดปกติทางสุขภาพจิต เช่น หงุดหงิด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ฝันร้าย ไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ซึม เก็บตัว ทำร้ายตัวเอง คิดฆ่าตัวตาย,มีร่องรอยบาดเจ็บฟกช้ำตามตัว บอกสาเหตุไม่ได้ชัดเจน, มีเพื่อนน้อยลง ไม่ค่อยพูดถึงเพื่อนหรือกิจกรรมที่โรงเรียน, มีอาการเครียด ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ไม่อยากอาหาร, หลีกเลี่ยงการเข้าสังคม เช่น หนีออกจากบ้าน ไปโรงเรียนสาย ไม่อยากไปโรงเรียน ขาดเรียนบ่อย ผลการเรียนตกต่ำ

ผลกระทบจากจากการถูกกลั่นแกล้ง โดยเฉพาะเด็กที่ถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะซึมเศร้า ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาทางการเรียน เช่น ไม่อยากไปโรงเรียนหรือขาดเรียนบ่อยๆ รวมทั้งอาจรู้สึกโดดเดี่ยวและแยกตัวออกจากสังคม

ส่วนเด็กที่กำลังกลั่นแกล้งคนอื่น จะมีพฤติกรรมก้าวร้าว, มีของเล่นหรืออุปกรณ์การเรียนใหม่ๆโดยไม่รู้ที่มา, ชอบว่าคนอื่น ชอบแข่งขัน อยากเป็นที่ยอมรับ และทำผิดแต่ไม่ยอมรับผิด

ผลกระทบจากการที่ไปกลั่นแกล้งผู้อื่น เช่น เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เสพติดแอลกอฮอล์หรือสารเสพติดอื่นๆ มีพฤติกรรมลักขโมยและเรียนไม่จบ มีพฤติกรรมทางเพศก่อนวัยอันควร มีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงกับคู่สมรสหรือลูก คนใกล้ตัว และอาจจะเป็นอาชญากรในอนาคตได้

Bully ปัญหาเรื้อรัง ที่กระทบร่างกาย-จิตใจ

การรับมือการบูลลี่ที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ใช้ความนิ่งสยบการ บูลลี่, ตอบโต้อย่างสุภาพ ด้วยคำพูดและการแสดงออกว่าไม่ได้รู้สึกสนุก, พูดคุยกับเพื่อนร่วมชะตากรรมเพื่อช่วยกันแก้ไข, เปลี่ยนสิ่งแวดล้อม หากการบูลลี่นั้นทำร้ายร่างกายหรือจิตใจจนยากยอมรับ การเปลี่ยนที่ทำงาน กลุ่มเพื่อน ก็อาจช่วยฟื้นฟูภาวะบอบช้ำจากการถูกบูลลี่ได้เร็วขึ้น, ปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์

“สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยหยุดเรื่องการกลั่นแกล้งกันได้ คือ ทุกคน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต้องเข้าใจตรงกันว่าเรื่องการแกล้งกัน ไม่ใช่เรื่องเล็ก เด็กแกล้งกัน ไม่ใช่แค่การเล่นที่เป็นปกติหรือเป็นเรื่องที่เด็กสามารถจัดการกันได้เอง ต้องใช้ความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนทั้ง ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาเพื่อลดผลร้ายแรงที่จะเกิดขึ้น”

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,993 วันที่ 19 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567