อย่าคิดว่าป่วยด้วย “โรคไทรอยด์” แล้วมีอาการแค่น้ำหนักตัวที่ขึ้นลงผิดปกติ หัวใจเต้นแรง หรือเหนื่อยง่าย เพราะในความเป็นจริง ไทรอยด์ยังส่งผลต่อดวงตาได้เช่นกัน โดยเฉพาะอาการตาโปน หนังตาบวม หรือแม้กระทั่งการมองเห็นเปลี่ยนไป “โรคตาโปนจากไทรอยด์” หรือ Thyroid Eye Disease (TED) จึงเป็นปัญหาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะส่งผลต่อภาพลักษณ์แล้ว ยังส่งผลกระทบชีวิตประจำวันได้
ไทรอยด์ขึ้นตาคืออะไร
“โรคตาโปนจากไทรอยด์” คือภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อรอบลูกตาและเนื้อเยื่อในเบ้าตาเกิดการอักเสบ บวม และมีพังผืดตามมา จนเกิดอาการ “ตาโปน” หรือ “ตาอักเสบ” ซึ่งสัมพันธ์กับโรคไทรอยด์ โดยเฉพาะไทรอยด์เป็นพิษ (Graves’ disease)
สาเหตุของไทรอยด์ขึ้นตา
แม้ยังไม่เป็นที่ทราบสาเหตุแน่ชัด แต่อาการไทรอยด์ขึ้นตา สามารถเกิดจากปัจจัยดังนี้ เกิดร่วมกับโรคไทรอยด์เป็นพิษ, ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง, พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติไทรอยด์ขึ้นตา, มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย, ผู้มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และการสูบบุหรี่
แนวทางการรักษา
การรักษาไทรอยด์ขึ้นตามักรักษาควบคู่กับไทรอยด์เป็นพิษ โดยมีวิธีการรักษา ได้แก่ รักษาแบบประคับประคองอาการ, ใช้น้ำตาเทียม น้ำยาหยอดตา หรือเจลเพื่อบรรเทาอาการตาแห้ง แสบเคือง, การใช้ยาในระยะอักเสบ, ยากลุ่มสเตียรอยด์ ใช้ในช่วงที่มีการอักเสบรุนแรง เพื่อลดอาการบวมและกดภูมิคุ้มกัน
นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัดในระยะโรคคงที่ เช่น ผ่าตัดลดความดันในเบ้าตา (orbital decompression) สำหรับผู้ที่ตาโปนมากหรือเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็น ทั้งนี้ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ และการผ่าตัดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์ และควบคุมปัจจัยที่กระตุ้นอาการของโรค งดการสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด
การรักษาไทรอยด์ขึ้นตาไม่ใช่แค่เรื่องของยา หรือการผ่าตัด แต่เป็นการจัดการโรคอย่างครอบคลุม ตั้งแต่การควบคุมระดับฮอร์โมน ดูแลสุขภาพดวงตา ไปจนถึงการปรับพฤติกรรม หากตรวจพบเร็วและได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยส่วนมากสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติและมองเห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้ง
ขอบคุณ : ศูนย์จักษุวิทยาเฉพาะทาง โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)
Tricks for Life หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,129 วันที่ 7 - 10 กันยายน พ.ศ. 2568