Longevity เทรนด์ใหม่ดูแลสุขภาพ

23 ส.ค. 2568 | 21:40 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2568 | 21:40 น.

Longevity เทรนด์ใหม่ดูแลสุขภาพ : Tricks for Life

กำลังเป็นกระแส สำหรับ “Longevity” เทรนด์ใหม่ในการดูแลสุขภาพ ทำให้หลายคนสงสัยว่า Longevity คืออะไร วันนี้เรามีคำตอบ

Longevity คือ แนวคิดและศาสตร์ที่มุ่งยืดอายุขัย (Lifespan) ควบคู่กับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี (Healthspan) หมายถึง การมีสุขภาพแข็งแรง สมองแจ่มใส ร่างกายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปราศจากโรคเรื้อรัง และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระยาวนานที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ โดยผสานองค์ความรู้จากหลายสาขา ทั้งเวชศาสตร์ป้องกันและเทคโนโลยีสุขภาพสมัยใหม่

Longevity สำคัญไฉน

1. ชีวิตยืนยาวพร้อมคุณภาพที่ดี : การมีอายุยืนไม่เพียงพอ หากช่วงท้ายของชีวิตต้องเผชิญโรคเรื้อรัง ความเจ็บปวด หรือภาวะพึ่งพาผู้อื่น แนวคิด Longevity จึงมุ่งป้องกันปัญหาสุขภาพตั้งแต่ต้น ไม่รอให้เกิดโรคแล้วค่อยรักษา เทคโนโลยีตรวจสุขภาพเชิงลึกจึงเข้ามามีบทบาท เช่น การตรวจยีนที่บ่งชี้ความเสี่ยงโรค การประเมินสารอาหารและสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการตรวจอายุชีวภาพ (Biological Age) จากข้อมูล Epigenetic

Longevity เทรนด์ใหม่ดูแลสุขภาพ

2. ลดภาระทางการเงินและครอบครัว : สุขภาพที่ดีคือการวางแผนการเงินที่ชาญฉลาด เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษา และลดภาระการดูแลจากคนรอบข้าง ทำให้ผู้สูงวัยสามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระนานที่สุด

3. เพิ่มโอกาสใช้ชีวิตอย่างเต็มศักยภาพ : เมื่อร่างกายและสมองยังพร้อม คุณสามารถทำงาน เดินทาง ท่องเที่ยว หรือเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้แม้ในวัยเกษียณ ลองนึกภาพว่าคุณอายุ 80 ปีแต่ยังออกทริปท่องเที่ยวเองได้อย่างคล่องแคล่ว นั่นคือเป้าหมายของ Longevity

เทรนด์ Longevity ในปัจจุบัน

1. การแพทย์เชิงรุก (Preventive Medicine) : การตรวจสุขภาพเชิงลึกและรายบุคคล เช่น การตรวจพันธุกรรม อายุชีวภาพ (Biological Age) สมรรถภาพร่างกาย (VO₂max) วิเคราะห์จุลชีพในลำไส้ (Microbiome) และตรวจ Biomarkers ที่บ่งชี้ความเสื่อมของเซลล์ เพื่อประเมินความเสี่ยงและป้องกันโรคตั้งแต่เนิ่นๆ

2. โภชนาการเพื่ออายุยืนยาว (Longevity Nutrition) : เน้นอาหารจากธรรมชาติ (Real Food) หลากหลายและครบถ้วน ลดอาหารแปรรูป โดยเฉพาะ Ultra-processed Food (UPF) และใช้วิธีอดอาหารแบบมีช่วงเวลา (Intermittent Fasting) อย่างเหมาะสม

3. การปรับวิถีชีวิตให้เหมาะสม (Lifestyle Optimization) : การจัดสภาพแวดล้อมและพฤติกรรม เช่น ฝึกสมาธิ นอนในอุณหภูมิที่เหมาะสม หรือกระตุ้นร่างกายด้วยความเย็น/ความร้อน เพื่อเสริมพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความสุขระยะยาว

4. เทคโนโลยีติดตามสุขภาพ (Wearables & Digital Health) : อุปกรณ์สวมใส่และแอปพลิเคชันที่ติดตามการนอน อัตราการเต้นหัวใจ ความแปรปรวนของหัวใจ (HRV) การออกกำลังกาย และความเครียด เพื่อช่วยปรับพฤติกรรมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

5. การฟื้นฟูร่างกายด้วยเทคโนโลยีสุขภาพ (Regenerative Therapies) : เช่น เซลล์บำบัด โอโซนบำบัด หรือการใช้สารเสริมอาหารบางชนิดเพื่อลดความเสื่อมของร่างกาย แม้ในปัจจุบันจะเริ่มมีการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่ยังต้องอาศัยงานวิจัยเพื่อยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว

 

ขอบคุณ : โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC)