เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
*** หุ้นสายการบินอย่าง AAV และ BA ถือว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มหุ้นที่น่าจับตามองไม่น้อย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะการสิ้นสุดความตื่นกลัวจากโควิด-19 ทำให้อัตราส่วนการเดินทางด้วยเครื่องบิน กลับมามีส่วนแบ่งทางการตลาดที่มากขึ้น และอีกส่วนก็มาจากค่าโดยสารที่ปรับสูงขึ้น รวมไปถึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับลดลง เป็นผลให้ต้นทุนรวมของสายการบินปรับต่ำลง
หากจะเทียบกันระหว่าง AAV และ BA เจ๊เมาธ์มองว่าทางด้านของ BA อาจจะได้เปรียบอยู่บ้าง อย่างแรกที่ BA ดูจะเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดคือ อัตราส่วนในการทำกำไรที่มีอยู่ 15.4% ในขณะที่ทาง AAV มีอยู่เพียงแค่ 3.66%
ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นพบว่า AAV มีสูงถึง 6.94 เท่า ขณะที่ทาง BA มีอยู่เพียง 2.46 เท่า เท่านั้นเอง ดังนั้น หากจะพิจารณาหุ้นสายการบิน ก็คงต้องให้ความสนใจตัวเลขเหล่านี้เอาไว้บ้าง อย่างน้อย...ก็เพื่อให้ได้รู้ว่าสถานะของบริษัทนี้เป็นอย่างไร หรือ จะเข้าได้หรือไม่นั่นเอง
*** หากจะนับเอาบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ประสบความสำเร็จในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็ต้องมี SIRI เข้าไปเป็นหนึ่งในทำเนียบของบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเข้าไปด้วย อย่างหนึ่งก็เป็นเพราะผลการดำเนินงานที่โตเด่นมากขึ้น โดยเฉพาะในปี 2565 ซึ่งมีกำไรสุทธิออกมาถึง 4.2 พันล้านบาท โตขึ้นถึง 110% เมื่อเทียบกับปี 2564
ในขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 บริษัทสามารถสร้างยอดขาย 12,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 70% ขณะที่มีกำไรสูงถึง 1.58 พันล้าน โตขึ้นถึง 400% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2565 ซึ่งมีกำไรเพียง 302 ล้านบาท ส่วนอย่างที่สอง ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะชื่อของ “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งถึงแม้ว่าตอนนี้จะลาออกไปจากการเป็นผู้บริหาร เพื่อลงเล่นการเมืองเต็มตัวเข้าไปด้วยอีกหนึ่งสาเหตุ
แต่ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า ความสำเร็จของบริษัทผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาฯ จะเกิดขึ้นภายหลังการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ และยิ่งถ้าเป็นโครงการใหญ่ๆ ก็อาจจะกินเวลานาน 2-3 ปี ซึ่งก่อนที่จะถึงขั้นตอนนี้เลยก็เป็นได้ ดังนั้นนี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มบริษัทอสังหาส่วนใหญ่แทบจะไม่ตอบรับไปกับผลการดำเนินงานนั่นเอง ดังนั้น กรณีราคาหุ้นของ SIRI จึงดูเหมือนจะมีประเด็นของอดีตผู้บริหารที่คอยเป็นตัวหล่อเลี้ยง
*** PTTGC ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในหุ้นที่ควรจะต้องจับตาเอาไว้บ้าง เนื่องจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 เริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากขาดทุนหนักเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ในปี 2565 โดยนักวิเคราะห์หลายสำนักมองตรงกันว่า ธุรกิจจีนที่ฟื้นตัวจะช่วยหนุนการฟื้นตัวของส่วนต่างราคา ทั้งในธุรกิจโพลีเมอร์ และ โรงกลั่น ภายในครึ่งหลังปี 2566 และคาดว่าสินค้าในกลุ่มพลีเมอร์ (PE, PP) จะมีความต้องการที่สูงมากกว่ากําลังการผลิตทั่วโลกภายในปี 2567
ขณะเดียวกันหากมองราคาหุ้นของ PTTGC ผ่านทางกราฟเทคนิคก็จะเห็นว่า ราคาหุ้นเริ่มตัดขึ้นมาเหนือเส้น EMA15 เส้น MACD และ RSI เริ่มยกตัวขึ้นหลังจากที่ราคาหุ้นร่วงลงไปต่ำสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งหาดูตามทรงนี้แล้วก็มีโอกาสที่ราคาหุ้นของ PTTGC จะกลับตัวได้มากพอสมควร แต่เนื่องจากในส่วนของธุรกิจโรงกลั่น ยังคงมีปัญหาเรื่องค่าการกลั่นอยู่บ้าง ซึ่งถ้าจะฟื้นตัวชัดเจน ก็น่าจะเริ่มในช่วงไตรมาสที่สามเป็นต้นไป ดังนั้น เจ๊เมาธ์จึงมองว่า PTTGC เหมาะที่จะถือยาวมากกว่าการเล่นรอบ เพราะอย่างน้อยด้วยราคาที่ยังต่ำ และด้วยแนวโน้มที่กำลังดูดีขึ้น ก็ทำให้หุ้นตัวนี้มีโอกาสที่จะไปต่อได้ในระยะยาวนั่นเอง
*** เจ๊เมาธ์ไม่อยากเอาเรื่องของการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 450 บาท มาพูดถึงมากนัก เนื่องจากยังไม่เกิดขึ้น แต่ข่าวการย้ายฐานการผลิตรถยนต์อีซูซุบางส่วนไปยังประเทศอินโดนีเซีย ก็ได้ถูกโยงเข้าไป เนื่องจากผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์อีซุซุเพียงรายเดียว แต่ยังเกิดขึ้นกับบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เกี่ยวข้องโดยตรงในการผลิต ทั้ง บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT และ บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) หรือ NYT ซึ่งต่างก็มีผู้ใช้แรงงานอยู่ในกระบวนการผลิต ที่อิงอยู่กับค่าแรงขั้นต่ำปัจจุบันอยู่เป็นจำนวนมาก นี่ยังไม่นับรวมไปถึงก่อนหน้า ที่ผู้บริหารบริษัทผลิตอาหารทะเลบางบริษัท ระบุว่า อาจจะย้ายฐานการผลิตไปต่างประเทศรวมไปถึงบรรดาผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่ออกตัว...แต่เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดหากมีการปรับขึ้นค่าแรงอย่างที่ว่า
อย่างไรก็ตาม เรื่องการขึ้นค่าแรงก็เป็นเรื่องที่เจ๊เมาธ์มองว่า มีทั้งข้อดีและข้อเสีย และเมื่อมีผู้ได้ประโยชน์ ก็จะต้องมีผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการชดเชยตามความเหมาะสม ดังนั้น จึงไม่สามารถจะพูดกันลอยๆ โดยที่ไม่มีหลักการ และวิธีการดำเนินงานมารองรับให้ชัดเจน เพราะหากยังไม่มีความชัดเจน สิ่งที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน อาจเป็นแค่จุดเริ่มต้นของความเสียหายเท่านั้นเอง