FORTH แม่...ดีกว่าลูก

28 มี.ค. 2566 | 21:00 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2566 | 13:23 น.

FORTH แม่...ดีกว่าลูก คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ โดย...เจ๊เมาธ์

*** ราคาหุ้นของ ALL เริ่มกลับตัวเป็นขาลงอีกรอบหลังจากที่มีนักวิเคราะห์จากบางสำนักเริ่มมองเห็นแล้วว่า ในปี 66 บริษัทนี้น่าจะขาดทุนต่อเนื่องหลังจากที่ขาดทุนมาแล้วหลายไตรมาส ซึ่งก็เป็นอย่างที่เจ๊เมาธ์เคยเตือนว่าหุ้นอย่าง ALL เป็นหุ้นที่ควรจะดูอยู่ให้ห่าง เพราะการแก้เกมแบบ “ฮาร์ดคอร์” โดยการ “ตัดแขนเพื่อรักษาชีวิต” ด้วยการแบ่งขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ หลังจากที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้จนทำให้ราคาหุ้นของ ALL ฟื้นตัวขึ้นมาจากจุดที่ราคาหุ้นตกต่ำที่สุด  

แต่การทำลายแหล่งรายได้ที่มีอยู่แค่ไม่กี่อย่างของบริษัท ซึ่งเมื่อไม่มีรายได้ หรือ รายได้หายไปมากจนเกินไป ก็ไม่ต่างจากคนไม่มีแขนที่จะทำมาหากิน และถึงตอนนี้เจ๊เมาธ์ก็ยังคงยืนยันว่า ALL ยังคงเป็นหุ้นที่ต้องเว้นระยะห่างเอาไว้ หรือไม่ก็อาจจะต้องรอให้มีสัญญาณความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนว่า บริษัทจะเริ่มมีกำไรออกมาให้เห็น ซึ่งก็ไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่
 

*** ดูเหมือนว่าผู้บริหารของ SABUY จะเริ่มแก้ปัญหาราคาหุ้นร่วงลงมาตลอดได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น เพราะธุรกิจใหม่ที่ทาง SABUY เข้าไปจับเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีความชัดเจนในแนวทางของธุรกิจ หลังจากก่อนหน้านี้มีสารพัด MOU ที่เคยจับเป็นการเซ็นต์แหลก...เอามันทุกอย่าง จับทุกทาง เล่นข่าวกันจนไม่รู้ว่าจะทำได้จริงแค่ไหน ซึ่งจนถึงวันนี้ผ่านมาแล้วเกือบ 2 ปี บรรดาดีลเล็กๆ น้อยๆ ที่เคยทำเอาไว้กลับไม่ได้มีผลดี ที่เห็นได้กับตัวบริษัท ในทางกลับกันดีลใหญ่ๆ กลับส่งผลกับผลการดำเนินงานอย่างเป็นรูปธรรมได้มากกว่า เอาเป็นว่าเมื่อนักลงทุนรู้ว่าบริษัท “ไม่ได้โม้” มันก็จะสะท้อนผ่านทางราคาหุ้น ซึ่งเมื่อมาถูกทางก็ดีแล้ว...ไม่เห็นจะต้องทำอะไรให้เหนื่อยหรือวุ่นวายตั้งแต่ที่แรกเลย 

*** ดูเหมือนสตอรี่ “เต่าบิน” ตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติจาก FSMART เริ่มไม่ดึงดูดใจนักลงทุนในขณะที่รายรับที่เกิดจาก “ตู้เต่าบิน” ก็ไม่ทำให้ผลการดำเนินงานของ FSMART ดีขึ้นในแบบที่เคยถูกคาดหวังจนเป็นสาเหตุให้ราคาหุ้นของทั้ง FSMART และ FORTH ในฐานะบริษัทแม่ซึ่งถือหุ้นใน FSMART อยู่มากกว่า 50% ต่างก็ถอยหลังลงมาจากจุดสูงสุดในตอนที่ฮอตๆ ซึ่งหากจับเอา FSMART และ FORTH มาเปรียบเทียบกันก็จะดูเหมือนว่าทางด้านของ FSMART จะเสียเปรียบเพราะนอกจากราคาหุ้นจะถอยหลังลงมากเกือบ 50% ผลการดำเนินงานของปี 65 ก็ไม่ได้ดีขึ้นมาเลย แม้จะมีตู้เต่าบินก็ตาม 

ขณะที่ในส่วนของ FORTH ผลงานที่ผ่านมาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า ทั้งผลการดำเนินงานและราคาหุ้นของ FORTH มีความแข็งแกร่งในขณะที่ความหลากหลายทางธุรกิจของ FORTH ก็มีมากกว่า ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกที่รอบนี้หุ้นแม่อย่าง FORTH จะดูดีและน่าสนใจมากกว่าหุ้นลูกที่ยังไม่ยอมโตอย่าง FSMART นั่นเอง
 

***การที่บอร์ดของ BJC อนุมัติให้ บมจ.บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น (BRC) เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้ราคาหุ้นของ BJC ปรับมูลค่าลงอย่างน่าสนใจ เพราะการที่ BRC เข้าไปอยู่ในตลาดก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่แหล่งรายได้หลักของ BJC ถูกแยกออกไปคิดเป็นสัดส่วนที่มากกว่า 60% เมื่อเทียบกับ BJC โดยรายได้และกำไรของ BRC ในปี 64-65 มีรายได้รวม เท่ากับ 111,107 ล้านบาท และ 113,573 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,333 ล้านบาท และ 6,757 ล้านบาท 

อย่างไรก็ตาม เจ๊เมาธ์เชื่อว่าการแตกตัวออกมาเป็นอิสระของ BRC จะส่งผลดีกับทั้ง BJC และ BRC แน่นอน ดังนั้นยิ่งถ้าราคาหุ้นของ BJC ร่วงลงไปมากเท่าไหร่ก็เป็นจังหวะที่จะได้เก็บของถูกได้มากขึ้นและนี่ยังไม่นับรวมไปถึงโอกาสของผู้ถือหุ้น BJC ที่จะได้สิทธิ์ในการจองซื้อหุ้นไอพีโอของ BRC  ดังนั้นจังหวะนี้ถือว่า BJC น่าสนใจมากเจ้าค่ะ